วันนี้ (2 ก.ย. 68) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ประธาน สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม สส.พรรคประชาชน ประจำสัปดาห์ ซึ่งเป็นการประชุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงแนวทางการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
โดยนายปกรณ์วุฒิ เปิดเผยว่า มติที่ประชุมของพรรคประชาชน คือวันนี้ไม่มีมติ ต้องบอกว่า 2 วันที่ผ่านมา เราได้มีการรับฟังความเห็นของ สส. มีการเปิดรับฟังความเห็นของทุกองคาพยพของพรรค ทั้งเจ้าหน้าที่พรรค ทีมงานพรรคประจำจังหวัด และเครือข่ายต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้ พรรคประชาชน ยังคงเปิดรับฟังความเห็นของสมาชิกพรรคอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมของกรรมการบริหารพรรค และคณะผู้บริหารของพรรค ที่อาคารรัฐสภา เพื่อตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่า เราจะโหวตเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีท่านใด ยืนยันว่า พรุ่งนี้รู้แน่ ส่วนเวลากี่โมงนั้น ยังไม่มีการนัด แต่จะพยายามให้เร็วที่สุด สำหรับแนวโน้มในตอนนี้ ยังไม่มีการตัดสินใจในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
ส่วนกระแสข่าวจะจับมือพรรคภูมิใจไทย นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า ไม่เป็นข้อเท็จจริงใด ๆ ไม่มีมติ ไม่มีการตัดสินใจ ในทางแนวทางหนึ่ง ณ ตอนนี้
ขณะที่ประชุม สส.ได้มีการให้โหวตกันหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า ไม่มีการโหวต มีแค่การให้ความเห็นที่หลากหลาย ทุกคนเห็นตรงกันหมดว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย และเห็นตรงกันว่า นี่ไม่ใช่การเลือกนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด แต่คือการเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีโอกาสพาไปสู่การยุบสภา และมีโอกาสแก้รัฐธรรมนูญมากที่สุด ซึ่ง สส.ทุกคนเข้าใจตรงกัน
สำหรับกรณีมีการปล่อยข่าวออกมา นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบด้วยซ้ำว่าใครปล่อย จึงไม่ทราบเจตนา /นั่นแปลว่าสิ่งที่จะเลือก มาจากมติ กรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่มติ สส.พรรค ใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยืนยันมาตลอดว่า การตัดสินใจเรื่องนี้ ไม่ได้ยึดที่ประชุม สส.เพราะที่ประชุม สส.เป็นองคาพยพหนึ่ง
การไม่มีมติ คือการรอดูท่าทียุบสภาจากพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ ระบุว่า นาฬิกาเดินไปเรื่อยๆ เราเรียกร้องเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม นาฬิกายังเดินต่อไป ถ้ารักษาการนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการยุบสภา เราก็ต้องตัดสินใจ
ส่วนจะไม่มีมติไปเรื่อย ๆ จนกว่ายุบสภาไปเองใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ ย้ำว่า ไม่มีการประชุม สส.อะไรเรื่องนี้อีกแล้วต่อจากนี้ ขอนำทุกความเห็นของทุกองคาพยพ แม่น้ำทุกสายจะไหลไปที่กรรมการบริหารพรรคตัดสินใจ
สำหรับความเห็น สส.ที่สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ให้เหตุผลว่าอะไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า สิ่งที่พูดได้คือ เราไม่ไว้วางใจทั้งคู่ เพราะเรื่องความรู้สึกคงมีกันหมด
ส่วนกรณีมีรายงานพรรคภูมิใจไทยวางโรดแมพ 120 วันแล้ว นายพริษฐ์ ระบุว่า ยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่สิ่งที่ดีที่สุด คือการรอการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค ย้ำว่า เหตุผลในการพิจารณาที่สำคัญสุด คือเงื่อนไข 3 ข้อของพรรค
อย่างไรก็ตาม ต้องมีการทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ผู้ที่ตอบรับเงื่อนไข ต้องแสดงให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจน แต่จะเกิดการเซ็นต์สัญญาในวันพรุ่งนี้เลยหรือไม่ ตนตอบแทนกรรมการบริหารพรรคไม่ได้ ส่วนยังมีโอกาสใช้แนวทางไม่เลือกใครเลยหรือไม่ ก็ตอบแทนกรรมการบริหารพรรคไม่ได้เช่นกัน
หากมีมติเลือกพรรคภูมิใจไทย จะมีคำอธิบายอย่างไร นายพริษฐ์ ยืนยันว่า ไม่ว่ากรรมการบริหารพรรคจะตัดสินใจอย่างไร ต้องมีคำอธิบายต่อประชาชนอยู่แล้ว
กรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยมีการเริ่มขั้นตอนยุบสภาแล้ว พรรคประชาชนมีการเตรียมการอย่างไรบ้าง นายพริษฐ์ ยังกล่าวย้ำจุดเดิม ได้ยินคำพูดมาเยอะ แต่ไม่เห็นการกระทำ เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าเป็นการขู่หรือไม่ นายพริษฐ์ ยังตอบเจตนาไม่ได้ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกต จากการให้สัมภาษณ์ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะจุดยืนของพรรคเราเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ เพราะเราคิดถึงประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่ประโยคของพวกเรา
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวเสริมว่า ประเด็นนี้ ต้องไปถามพรรคเพื่อไทย อำนาจอยู่ในมือคุณ ซึ่งยังไม่ได้ทำ ส่วนเราเตรียมพร้อมเลือกตั้ง
การไม่เข้าร่วมเป็นรัฐบาลในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ จะปิดโอกาสประเทศหรือไม่ นายพริษฐ์ จำแนกว่า 1.พรรคประชาชนให้ความสำคัญกับคำพูด เมื่อไหร่ก็ตามที่พรรคการเมือง หรือนักการเมืองคนไหนผิดคำพูดกับประชาชน จะทำให้คำพูดไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป ตนไม่ต้องการให้พวกเราพรรคประชาชน ไม่มีความน่าเชื่อถือในสายตาประชาชน
2. เราต้องการคงสถานะการเป็นฝ่ายค้าน เพื่อทำให้ใครก็ตามที่เข้าไปเป็นรัฐบาล เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อให้เราสามารถควบคุมให้รัฐบาลเสียงข้างน้อย สามารถรักษาสัญญา ผ่านกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ หากเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเบี้ยวสัญญา หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ หากเราเอาตัวเองไปร่วมรัฐบาล จะกลายเป็นว่า เราจะไม่สามารถเป็นฝ่ายค้านที่ล้มรัฐบาลได้ เพราะรัฐบาลที่จะตอบโจทย์ประเทศ คือจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า
ส่วนจะมีโอกาสขยายกรอบข้อเสนอ 3 ข้อเดิม หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม ป้องกันไม่ให้ถูกหักหลัง นายพริษฐ์ กล่าวว่า เงื่อนไข 3 ข้อ มีความชัดเจนละเอียดแล้ว เพราะเราได้ทำความเข้าใจกับทั้งสองพรรคแล้ว แต่การกำกับดูแลรักษาสัญญานั้น ก็มีการวางกลไกไว้อยู่แล้ว
สำหรับข้อกังวลว่าจะเกิดกรณีพรรคที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี มีการ ดูด สส. เพิ่ม จนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ก็เป็นความเสี่ยงที่เรารับรู้ และมีการพูดถึงอย่างตรงไปตรงมามาโดยตลอด แน่นอนว่า เป็นความเสี่ยงที่เราปฏิเสธไม่ได้ ในเชิงของการเมืองไทยที่ผ่านมา มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง ส่วนตัวคิดว่า สิ่งที่จะทำให้ลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ คือ เอกภาพ สส. 140 คนของพรรคประชาชน ดังนั้น ถ้าพรรคประชาชนเดินหน้าอย่างเป็นเอกภาพ ซึ่งเชื่อว่าเพื่อน สส.ของตนทุกๆ คน จะเดินหน้าทำงานอย่างเป็นเอกภาพ จะลดความเสี่ยงตรงนั้นลงได้
ส่วนกระแสข่าว พรรคเพื่อไทยมีการไปคุยกับพรรคภูมิใจไทย นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้รับทราบ แต่ก็ไม่ได้เป็นสาระหลักของเรา
กระแสข่าวว่าที่ประชุมของ สส. ของพรรค มีเสียงแตกออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน กังวลว่าการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคจะทำให้เกิดการแตกหักกันหรืไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า กลายเป็นวัฒนธรรมของพรรคเราไปแล้ว แต่อีกหนึ่งวัฒนธรรมที่ชัดเจนเช่นกันคือ ไม่ว่าจะถกเถียงกันขนาดไหน หากครั้งใดใช้มติของพรรค ทุกคนจะเคารพมติของพรรค หากครั้งใดใช้การตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค ทุกคนจะเคารพการตัดสินใจของกรรมการบริหาร
ดังนั้น ความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องดี และเป็นวัฒนธรรมที่เราทำมา ตั้งแต่ตอนอนาคตใหม่ ก้าวไกล ถึงพรรคประชาชน เป็นเรื่องปกติ เพราะทุกคนคิดเหมือนกันว่า พรรคต้องมีเอกภาพ
กังวลว่าสมาชิกพรรคจะลุกฮือหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นเหตุผลที่เราอยากเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อในคืนนี้ เพื่อให้มีมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรควันพรุ่งนี้ แต่จะเปิดเผยความโปร่งใสในระบบรับฟังความเห็นสมาชิกหรือไม่นั้น ณ ตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องนี้ เท่าที่พูดคุยกันในเบื้องต้น เป็นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นภายใน
ขณะนี้ มีการเตรียมการพูดคุยกับนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลแล้วหรือยัง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เตรียมอะไร ยังไม่ได้โทรคุยกันเลย
ส่วนจะเลือกพรรคการเมืองที่มีโอกาสเบี้ยวต่อจุดยืนพรรคประชาชนน้อยที่สุดใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า เป็นกระบวนการที่รัดกุมที่สุด เพื่อป้องกันการบิดพริ้วข้อตกลง
สำหรับรายงานข่าว นายภูมิธรรมได้ทูลเกล้าฯ ให้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้ว นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นรายงานข่าวมีประโยคเดียว จึงขอยังไม่ให้ความเห็นต่อสิ่งที่มีการรายงาน ถ้ามีการยุบสภาจริง ก็คงไม่ต้องพูดเยอะ ขอให้โชว์หลักฐานให้เห็นว่า มีการดำเนินการทำไปแล้ว
ขณะที่การลงมาแถลงในครั้งนี้ มีการเปลี่ยนตรวจผู้แถลง จากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เนื่องจากมีกระแสข่าวมติ สส.ออกมาใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง ส่วนการเปลี่ยนตัวคนแถลง ก็ไม่เคยชี้แจงว่า นายณัฐพงษ์จะมาแถลง
ด้านนายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า อันที่จริงไม่อยากให้สื่อมวลชนรอนานหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค มีเรื่องคุยเล็กน้อยกับ สส. แต่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการเลือกนายกรัฐมนตรี หากประชาสัมพันธ์ของพรรคแจ้ง ก็ต้องขอโทษ เพราะตนอยู่ในที่ประชุม สส.ตลอด จึงไม่ได้เห็นข้อความนั้น
การประชุมครั้งนี้สำคัญมากถึงขนาดริบโทรศัพท์เลยหรือ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราต้องการรายงานข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริง แต่ท้ายที่สุด ก็มีความคลาดเคลื่อน ตนยังไม่รู้เลยว่า ข่าวลงกี่โมง ส่วนที่นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคชี้แจง คงมีใครมากระซิบ
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า ตนเองไม่ขอสรุปว่า ข่าวออกมาจากข้างใน เพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ สื่อก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ว่าหลุดออกมาจากในพรรค ข่าวที่ไม่มีแหล่งข่าว ควรจะใช้วิจารณญาณเป็นอย่างมาก