ถูกบังคับกินยา ลูกชายคลั่งกระทืบแม่จนตาย

ถูกบังคับกินยา ลูกชายคลั่งกระทืบแม่จนตาย

View icon 461
วันที่ 4 ก.ย. 2568 | 14.05 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ลูกชายวัย 31 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายแม่วัย 54 ปี เสียชีวิต อ้างถูกแม่บังคับให้กินยาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นอะไร จึงทะเลาะกับแม่ ก่อนใช้มือและเท้าทำร้ายแม่

วันที่ 4 ก.ย.2568 ร.ต.อ.อนิวัฒน์ ขอบเพชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้เสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง ใน  บ้านลาน ม.4  ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าที่กู้ชีพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรัชญามาศ ไชยสุระ ผกก.สภ.บ้านไผ่ และ นายพิชัย วันตา นายอำเภอบ้านไผ่ ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบด้วย

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ที่ห้องนอนชั้นสอง พบนายจตุพล อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุอยู่ในห้อง นั่งอยู่ใกล้กับศพผู้เสียชีวิต คือ น.ส.จรัสรัตม์ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายจตุพล ผู้ก่อเหตุ สภาพศพถูกทำร้ายจนใบหน้าปูดบวม ไม่พบร่องรอยถูกของมีคม

สอบถามเบื้องต้นนายจตุพลบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ถูกแม่บังคับให้กินยาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นอะไร เป็นคนปกติดี จึงทะเลาะกับแม่ ก่อนใช้มือและเท้าทำร้ายแม่ ไม่อยากกิน และยอมรับว่ามีความเครียดจากเรื่องต่างๆ จนเกิดความกังวล อยากหาที่สงบจิตสงบใจอยู่คนเดียว ก่อนที่ตำรวจจะคุมตัวนายจตุพลขึ้นรถตำรวจไปที่โรงพักเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที

จากการสอบถามนายอ่อนสา อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านลาน ม.4 ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุนั้นชาวบ้านได้ยินเสียงผู้ตายร้องเรียกให้คนช่วย พอสิ้นเสียงทุกคนก็ขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน แต่ประตูล็อคเปิดไม่ได้ จึงงัดเข้าไปเห็นลูกชายนั่งสมาธิอยู่ใกล้ๆ กับศพของแม่ แต่ไม่เห็นว่าทำร้ายแบบไหน สันนิษฐานว่าจะใช้กำปั้นทำร้ายแม่และจับศีรษะแม่ฟาดกับเสาบ้านจนใบหน้าปูดบวม นอนหายใจรวยรินอยู่ข้างๆ

ขณะที่นายพิชัย วันตา นายอำเภอบ้านไผ่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นายจตุพลทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่ตกงานจึงกลับมาอยู่กับแม่ได้ประมาณเกือบ 2 ปี และพยายามหางานทำ โดยแม่เริ่มสังเกตเห็นลูกชายเหมือนคนเป็นประสาท มีสภาวะทางจิต แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับ นิสัยเป็นคนชอบเล่นดนตรี อารมณ์ศิลปินเก็บตัวอยู่คนเดียว ตรวจสอบประวัติแล้วเป็นคนดี ไม่มีคดีติดตัว และไม่มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยได้ทำการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นก็ไม่พบมีสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด ในหมู่บ้านไม่เคยอาละวาด ไม่เคยทะเลาะกับแม่หรือชาวบ้านคนอื่นๆ มีงานบุญก็ช่วยเหลือไม่มีประวัติเป็นนักเลงหรือตั้งแก๊ง และเป็นคนพูดเพราะ

โดยก่อนเกิดเหตุ 2 วัน ผู้ก่อเหตุได้เดินไปนอนอยู่วัด พ่อจึงไปตามให้มานอนที่บ้านปู่ คือ บ้านหลังเกิดเหตุ และนอนได้ 2 คืน แม่เป็นห่วงจึงได้ตามมานอนเฝ้าลูกที่บ้านหลังดังกล่าว และสังเกตุลูกมีอาการซึมเศร้า เหม่อลอย บังคับให้ไปหาหมอ ก็ไม่ไป เลยไปขอยาแก้เครียดจากญาติมาให้ลูกกิน แต่ลูกไม่ยอมกินยา บอกว่าตัวเอง ไม่เป็นอะไร จึงมีปากเสียงทะเลาะกับแม่ได้ทำร้ายร่างกายแม่เสียชีวิตดังกล่าว

อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนนายจตุพล ผู้ก่อเหตุ ถึงสาเหตุที่ทำร้ายมารดาจนเสียชีวิตอย่างละเอียดตามขั้นตอนของกฎหมาย ก่อนแจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป