ไม่ทอดทิ้ง รองผู้ว่าฯ ลพบุรี ถกคณะสงฆ์ หาแนวทางย้ายผู้ป่วย HIV วัดพระบาทน้ำพุ เผยมี 4 มูลนิธิประสานเข้ามาช่วยดูแล ส่วนผู้ป่วยในโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ 2 พมจ.ลพบุรี- สสจ.ลพบุรี จะเข้าไปดูแลเอง
วันนี้ (4 ก.ย.68) ที่ห้องประชุมวัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมประชุมกับคณะสงฆ์ของอำเภอเมืองลพบุรี โดยพระครูวิธานธรรมวิสุทธิ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี, พระครูสุวัฒน์กิตติสาร รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมคณะสงฆ์, นพ.ปิยะเดช วลีพิทักษ์เดช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี (สสจ.ลพบุรี), นายวีระ จำลอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี (พศจ.ลพบุรี), น.ส.ชุติมา สมประสงค์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลพบุรี (พมจ.ลพบุรี), เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองเขาสามยอด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดำเนินการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ในวัดพระบาทน้ำพุ และลดปัญหาค่าใช้จ่ายของวัดในระยะยาว รวมทั้งภาระปัญหาอื่นที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดวิกฤตศรัทธา
โดยผู้ป่วยที่อยู่ในอาคารคนทำดีอวดผี ได้ประสานมูลนิธิต่างๆ มาช่วยนำไปดูแล ส่วนผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรืออยู่ในสภาวะพึ่งพิงต้องมีคนดูแล จะจัดให้อยู่ในสถานที่เหมาะสม ซึ่งตอนนี้มีมูลนิธิ 4 แห่งจะเข้ามาดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ที่มีอยู่ 13 ราย ขณะที่ผู้ป่วย HIV ที่โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ 2 อ.หนองม่วงนั้น ทาง พมจ.ลพบุรี กับ สสจ.ลพบุรี จะเข้าไปดูแล
นายปรัชญา เผยว่า ข้อสรุปจากการประชุม อนาคตจะมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย HIV จากวัดพระบาทน้ำพุ ที่พักอยู่ในอาคารต่างๆ ไปรักษา โดยผู้ป่วยที่แข็งแรงจะย้ายไปอยู่สถานที่รองรับ ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ที่นี่ และต้องให้เวลาในการรักษาผู้ป่วยตามขั้นตอนของแพทย์ ก่อนจะย้ายผู้ป่วยไปสถานที่แห่งใหม่
ในส่วนการช่วยเหลือของผู้มีจิตศรัทธา ที่มีความเห็นใจต่อผู้ป่วยที่รักษาตัวที่วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งหลังจากมีข่าวทำให้การบริจาคเงินจากประชาชนลดน้อยลง จนบางวันไม่มีใครบริจาคเงินเลยนั้น วันนี้ (4 ก.ย.68) คณะกรรมการมูลนิธิลพบุรีสงเคราะห์ ได้นำข้าวสาร 500 กก.มาบริจาคให้แก่วัดพระบาทน้ำพุ
ด้าน น.ส.ชุติมา เผยว่า จากแผนดำเนินการย้ายผู้ป่วย ทีมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางวัด, สสจ.ลพบุรี และ พมจ.ลพบุรี จะต้องคุยทำความเข้าใจกับผู้ป่วยก่อนในเรื่องที่พึ่งพิงแห่งใหม่ เพราะจะเป็นการกระทบกระเทือนทางจิตใจของเขา เราจะทำทันทีไม่ได้ ต้องค่อยๆ ปรับสภาพให้รู้สึกว่าแม้ไม่ได้อยู่ตรงนี้ เราไม่ได้ทอดทิ้ง แต่ก็ต้องเป็นไปตามความสมัครใจของผู้ป่วยด้วย เราจะมีทางเลือกให้ผู้ป่วย บางคนอาจกลับบ้านได้ เราจะติดต่อญาติให้รับกลับไป บางคนอาจจะไปอยู่มูลนิธิเอกชน หรือสมัครไปอยู่โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ 2 เพราะไปอยู่ในกลุ่มเดียวกันจะเป็นเสมือนญาติ มีเพื่อนๆ ซึ่งไปอยู่ที่นั่น ภาครัฐจะต้องสนับสนุนส่งเสริมการประกอบอาชีพ ทั้งการเกษตร เลี้ยงสัตว์หรือสร้างอาชีพอื่นให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น พึ่งพาตัวเองได้ ส่วนผู้ป่วยติดเตียง ทาง สสจ.ลพบุรีก็มีที่รองรับไว้แล้ว
