“จาตุรนต์” มอง อนุทิน ไม่เหมาะเป็นนายกฯ หาก ปชน. หนุนโหวตข้ามขั้ว ทำให้ขาดการตรวจสอบ-ถ่วงดุลรัฐบาล ไม่เชื่อทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างมีประสิทธิภาพ บอกโปรฯ เลือก “ชัยเกษม” ดีกว่า เหตุยุบสภา ไม่ต้องรอ 4 เดือน
วันนี้ (5 ก.ย.68) ที่รัฐสภา ภายหลังจากที่ประชุมมีมติให้เลื่อนระเบียบวาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพิ่มเติม ขึ้นมาพิจารณาก่อน โดยระหว่างการประชุมซึ่งมี นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน พรรคภูมิใจไทยได้เสนอชื่อของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขณะที่ พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อของ นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32
จากนั้น ที่ประชุมได้ถกเถียงกันถึงระยะเวลาในการอภิปรายคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประธานฯ จึงได้ตัดสินใจ พิจารณาตามจำนวนผู้อภิปรายของแต่ละฝ่าย โดยให้เวลาฝ่ายละ 1 ชั่วโมง
ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุน นายชัยเกษม เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวถึงข้อตกลง 5 ข้อที่พรรคภูมิใจไทยได้ทำกับพรรคประชาชนไว้ว่า ข้อตกลงดังกล่าวทำให้นายอนุทิน ไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากพรรคประชาชนจะไม่มีใครอยู่ในคณะรัฐมนตรี แต่จะยกมือสนับสนุน พร้อมทั้งห้ามพรรคภูมิใจไทยรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เสมือนปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลโดยเป็นลูกไก่ในกำมือของพรรคประชาชน ซึ่งขัดต่อหลักการของระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง ขณะเดียวกันก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อประเทศ เพราะพรรคประชาชนบอกจะอยู่เป็นองค์ประชุมให้รัฐบาลในการผ่านกฎหมายต่างๆ จึงส่งผลให้ขาดการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาล ด้วยเหตุนี้ ตนจึงไม่เชื่อว่าพรรคประชาชนจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายจาตุรนต์ ยังกล่าวด้วยว่า การเลือก นายชัยเกษม ดีกว่า เพราะไม่ต้องรอถึง 4 เดือนสามารถยุบสภาได้ทันที แต่หากปล่อยให้ นายอนุทิน ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตย
