เจาะประเด็นข่าว 7HD - ยังคงเป็นที่จับตาว่าตอนนี้ นายอนุทิน ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะมีผลกระทบอะไรต่อคดีฮั้ว สว. หรือไม่ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า นายอนุทิน ก็มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวก็สอบถามความคืบหน้าเรื่องนี้กับแหล่งข่าวในกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ก็บอกว่า หลังรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ DSI ก็พบบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 1,200 คน ใน 45 จังหวัด แม้พนักงานสอบสวน จะมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า มีการจัดตั้งกลุ่มเพื่อให้ไปสมัคร สว.แล้วจะได้เอาคะแนนเสียง ไปลงให้กับบุคคลอื่น
แต่จากการสอบปากคำพยานที่ผ่านมา ก็พบว่าส่วนใหญ่ให้การไม่ค่อยเป็นประโยชน์ เช่น ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่รู้ไม่เห็น แต่ก็ยังมีพยานบางปาก ที่ให้การเป็นประโยชน์ ยอมรับสารภาพว่าได้รับเงินจริง จากคณะบุคคล ให้มาลงสมัคร สว. เพื่อโหวตคะแนนให้กับคนอื่น ซึ่ง DSI ยังมีเป้าที่จะต้องไล่สอบปากคำพยานให้ครบทั้ง 1,200 คน ภายในเดือนนี้ แล้วถ้าออกหมายเรียกใครไปแล้วไม่มา หรือไม่มีเหตุผลเพียงพอ ก็จะพิจารณาดำเนินคดี
ส่วนเรื่องคดีฮั้ว สว. ตามกฎหมายการเลือกตั้ง ที่ดำเนินการโดยคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ได้มีการส่งไปถึง "ชั้นที่ 2" แล้ว ซึ่งพยานหลักฐานส่วนนี้ จะเป็นส่วนที่มีการตรวจสอบคู่ขนานกับ คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว.ของ DSI แต่หากผลการตรวจสอบของทาง กกต.พบการกระทำผิดชัดเจน DSI ก็จะนำพยานหลักฐานส่วนนี้ ไปให้อัยการพิจารณาประกอบความเห็นสั่งฟ้องด้วย แหล่งข่าวยืนยัน แม้การเมืองจะเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่หนักใจ ยังคงเดินหน้าทำคดีฮั้ว สว. และคดีเขากระโดง ตามกรอบอำนาจหน้าที่ต่อไป