สนามข่าว 7 สี - ความคืบหน้าการจัดตั้ง ครม. ชุดใหม่ ภายใต้การนำทัพ "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยโผ ครม.อนุทิน 1 ต้องใช้คำว่า เกลี่ยใหม่ หลังจากที่วันก่อนเกิดกระแสวิจารณ์ให้แซ่ดถึงความเหมาะสม ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า จากพรรคกล้าธรรม
เมื่อวานทีมข่าวถาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เต็มตัวแล้ว ถึงความชัดเจนของโผ ครม.1
นายอนุทิน บอกว่า ถ้าจะให้พูดเป็นตัวเลขอยู่ที่ 99.9725 เปอร์เซนต์ เหลือเพียงปรับเปลี่ยน และเขย่าอีกเล็กน้อย แต่ทุกอย่างจะชัดเจน ก็ต่อเมื่อต้องนำรายชื่อทั้งหมด ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย
ส่วนคุณสมบัติของรัฐมนตรี ต้องมีความพร้อมในการทำงานใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ต้องพร้อม ทุกคนมีความทุ่มเท และเสียสละ และบางคนต้องทิ้งอาชีพราชการเข้ามาทำงานในส่วนนี้
สำหรับ โผ ครม. ล่าสุด มีรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย ได้รับโควตารัฐมนตรี มากสุดถึง 12 ตำแหน่ง โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายไชยชนก ชิดชอบ ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม
ขณะที่ ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็จะมี นางศุภมาส อิศรภักดี และ นายภราดร ปริศนานันทกุล
สำหรับโควตาคนนอกที่ชัดเจนแล้ว คือ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง คือ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
ขณะที่ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังเป็นโควตาคนนอก ซึ่งมีกระแสข่าวว่า เป็นตำรวจระดับอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3
สำหรับผู้ที่จะมาชิงเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน บอกว่า ตนเองจะเป็นคนตั้ง ในฐานะที่เป็นนายกฯ เพราะเกรงใจประชาชน และรู้ว่าทำเพื่อใคร ยืนยันผู้ที่นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องเป็นคนที่ดีที่สุดแน่นอน
เช่นเดียวกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอนุทิน ก็ย้ำเหมือนกันว่า ต้องเป็นคนที่มีความยุติธรรม เป็นที่ตั้ง
ส่วนเรื่องที่มีการจับจ้องกันว่า ต้องกำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่ทำคดีฮั้ว สว. นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องจับตา ทุกคนก็ทำงานตามหน้าที่ โดยนึกถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักจะไม่มีปัญหา ส่วนจะเป็นใครนั้น ถ้าเรียบร้อยแล้วจะเชิญลงมากินข้าวและแนะนำต่อสื่อมวลชน ไม่มีการปิดบัง
ต่อกันที่พรรคกล้าธรรม ได้ไป 7 เก้าอี้ มีรายงานยืนยันว่าโผครั้งนี้ ขยับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่โผก่อนหน้านี้ มีชื่อว่าจะนั่งในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปลี่ยนเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายไผ่ ลิกค์ และ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ นายองอาจ วงษ์ประยูร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
พรรคพลังประชารัฐ ได้ 4 เก้าอี้ ที่ปรากฏรายชื่อแน่ชัด นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นางตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส่วนอีก 2 รัฐมนตรีช่วย ยังไม่เคาะทั้งชื่อ และกระทรวง
สำหรับกลุ่ม นายสุชาติ ชมกลิ่น ชัดเจนแล้วว่าได้ 3 เก้าอี้ เจ้าตัวนั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม, จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ส่วนกลุ่มของ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ได้โควตารัฐมนตรีว่าการ 1 ตำแหน่ง ซึ่ง นายศักดิ์ดา จะนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการเอง
ขณะที่กลุ่มของ นายนิพนธ์ บุญญามณี ได้รับ 1 ตำแหน่ง โดยมีชื่อ นางสาวนิธิยา บุญญามณี ลูกสาวของนายนิพนธ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
สำหรับการปรับโผครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากกรณีที่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ได้นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีตามที่คาดการณ์ไว้ ทำให้มีการเกลี่ยตำแหน่งใหม่ในพรรคภูมิใจไทย
