เกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จ หนุ่มโดดสะพานห้วยตอง ทิ้งจดหมายลา 4 ฉบับ “เป็นผมที่อ่อนแอเกินไป” เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ในการค้นหาและกู้ร่าง ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวมา ณ ที่นี้ด้วย
ค่ำวานนี้ (8 ก.ย.68) พนักงานสอบสวน สภ.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 เพชรบูรณ์ ว่ามีชายพยายามกระโดดสะพานห้วยตอง พ.ต.อ.ภาสันต์ สังข์ทอง ผกก.สภ.บ้านกลาง พร้อม ร.ต.อ.พิทักษ์ ดีแซง ร้อยเวรสอบสวน และตำรวจสายตรวจ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยสว่างมงคลศรัทธาเพชรบูรณ์เข้าช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสะพานห้วยตอง หรือสะพานพ่อขุนผาเมือง ซึ่งเป็นสะพานที่มีตอม่อสูงที่สุดในประเทศไทย เชื่อมระหว่าง อ.หล่มสัก กับ อ.น้ำหนาว บนทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก – ชุมแพ) พื้นที่ ม.10 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่พบรถกระบะตู้ทึบ ป้ายทะเบียน จ.ร้อยเอ็ด จอดอยู่ โดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้า ชายผู้ก่อเหตุนั่งห้อยขาอยู่บนราวสะพาน เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมอย่างสุดความสามารถ พร้อมให้อาสากู้ภัยอาศัยจังหวะรถโดยสารที่แล่นผ่านค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้
แต่ระหว่างการเจรจาเกลี้ยกล่อม ชายคนดังกล่าวได้ลุกขึ้นยืนบนราวสะพานแล้วกระโดดหายลงไปในความมืด ต่อมาพบจดหมายลา อยู่ในรถ 4 ฉบับ โดยมีข้อความสะเทือนใจ
ฉบับแรก เขียนถึงพี่ชาย 2 คน “ฝากถึงพี่ชายทั้งสองคน อยากให้รักกัน อย่าทะเลาะกัน สิ่งไหนที่ไม่ดีอยากให้เลิกทั้งหมด อย่าเสียใจ ไม่ใช่ความผิดของพี่ ๆ ถ้าจะมีคนผิด ก็คือผมที่อ่อนแอเกินไป ต่อจากนี้จะเหลือกันแค่สองคนแล้ว ขอให้รักกันมาก ๆ ผมรักพี่เสมอ
จดหมายฉบับที่ 2 เขียนถึงเพื่อนชื่อ ต่อและโอ๊ต “ขอบคุณสำหรับทุกช่วงเวลาที่เล่น เต้น หัวเราะ และร้องไห้ด้วยกัน ขอโทษที่ต้องจากไปก่อน รักมาก ๆ และยังมีอีกหลายสิ่งที่ไม่ได้พูด กระดาษแผ่นเดียวไม่พอ ส่วนจดหมายฉบับที่ 3 เขียนฝากถึงผู้ร่วมงานเกี่ยวกับการทำงานประจำวัน และจดหมายฉบับสุดท้าย ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน
สำหรับผู้ก่อเหตุ เป็นชายอายุ 29 ปี มีภูมิลำเนาใน อ.จตุรพักพิมาน จ.ร้อยเอ็ด ก่อหน้านี้เคยก่อเหตุรมควันพยายามฆ่าตัวตายในรถ แต่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือไว้ได้ทัน แต่กลับมาก่อเหตุในครั้งนี้ หลังจากชายคนดังกล่าวกระโดดลงไปใต้สะพาน เจ้าหน้าที่ต้องใช้ไฟส่องสว่างเพื่อค้นหาด้านล่าง
นายนันทศักดิ์ คำดี เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ปากช่อง พร้อมทีมงาน 3 คน เป็นชุดแรกที่โรยตัวลงไปตรวจสอบ พื้นที่ใต้สะพานเต็มไปด้วยหญ้ารก หนามแหลม และอับอากาศ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เมื่อพบร่างของผู้ตายจึงเคลื่อนย้ายขึ้นมาได้สำเร็จ เบื้องต้นร่างถูกนำส่งโรงพยาบาลหล่มสัก รอญาติมารับ ส่วนรถกระบะถูกนำไปเก็บรักษาที่ สภ.บ้านกลาง