รอยยิ้มชาวนา เกษตรกรโคราช เลี้ยงปลาในนาข้าว หลังเก็บเกี่ยวให้ปลากินตอซังข้าว เปลี่ยนเป็นปุ๋ย ไม่ไถ ไม่ใส่ปุ๋ย แต่เพิ่มมูลค่าได้ถึง 5 เท่า สร้างรายได้มั่นคง ตั้งเป้าพื้นที่นา 1 ไร่ ขายข้าว 1 ตัน ปลา 1 ตัน
เกษตรรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานการเลี้ยงปลาในนาข้าวตามแนวคิดโคกหนองนา กำลังเป็นที่สนใจในหมู่เกษตรกรที่ต้องการพึ่งพาตนเองและลดการพึ่งพาปัจจัยการผลิตจากภายนอก ล่าสุด เกษตรกรชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ตรงถึงวิธีการทำนาแบบไม่ไถ ไม่ใส่ปุ๋ย และเลี้ยงปลาในนาข้าว ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างรายได้ที่สูงขึ้นกว่าการทำนาแบบดั้งเดิมหลายเท่า
วันนี้ (9 ก.ย.68) นายธนะกฤษฏิ์ พงษ์เกษมชูวงศ์ อายุ 52 ปี เกษตรกรชาว จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เริ่มแนวคิดนี้จากคำที่ว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” จึงนำมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่โคกหนองนา เนื้อที่ 2 ไร่ ที่บ้านหนองระเวียง หมู่ที่ 12 ต.หนองระเวียง อ.เมือง โดยแบ่งเป็น 3 แปลงย่อย แต่ละแปลงเลี้ยงปลาต่างชนิดกัน อาทิ ปลาดุกอุย 2,500 ตัว ในพื้นที่ 2 งาน และปลาหมอชุมพรกับปลาหมอแปลงเพศ 1,000 ตัว ในพื้นที่กว่า 1 งาน
นายธนะกฤษฏิ์ บอกด้วยว่า ปลาเหล่านี้มีบทบาทสำคัญ ขี้ปลาเป็นปุ๋ยบำรุงต้นข้าวโดยไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี นอกจากนี้ หลังเก็บเกี่ยว ตนยังเลี้ยงปลากินพืช เพื่อให้มากินซังตอข้าวและฟาง ช่วยเปลี่ยนเป็นปุ๋ยสำหรับฤดูกาลต่อไป ทำให้ทั้งข้าวและปลาเติบโตอย่างยั่งยืน จึงตั้งใจให้การทำเกษตรลักษณะนี้เป็นต้นแบบแก่เกษตรกรคนอื่น ๆ ที่อยากพึ่งพาตนเองอย่างแท้จริง
ยืนยันว่าในพื้นที่นาข้างไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ส่งผลให้สุขภาพกายใจดีขึ้นทั้งต่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญยังเพิ่มมูลค่ารายได้สูงขึ้นถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับการทำนาอย่างเดียว หากขายข้าว 1 กิโลกรัมได้เพียงกว่า 10 บาท แต่ปลาที่เลี้ยงในนาขายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 50 บาท ทำให้มูลค่าผลผลิตแตกต่างกันอย่างชัดเจน ตนจึงวางเป้าหมายในอนาคตไว้ว่าจะต้องได้ผลผลิตข้าว 1 ไร่ ต่อ 1 ตัน และปลา 1 ตัน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและรายได้ที่มั่นคงให้กับครอบครัวต่อไป
