ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 10 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา พ.ต.ต.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.บก.น.3 พร้อม พ.ต.ท.ธเนษฐ์ สอนจันดา.สส.สน.ร่มเกล้าและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้า ได้ร่วมกันจับกุม นายอดิศร หรือ เล็ก อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า ประมาณ 5,550,000 เม็ด และ รถยนต์กระบะ แบบตู้ทึบสีขาว สวมทะเบียน 2ฒญ 5341 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน โดยจับกุมได้บริเวณลานจอดรถแอร์พอร์ตเรียลลิงก์ลาดกระบัง แขวงและเขต ลาดกระบัง กทม.
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด "No Drugs No Dealers" ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด" ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 68 เวลา 18.00 น. มีพลเมืองดีแจ้งเหตุพบรถยนต์กระบะ แบบตู้ทึบสีขาว ขทะเบียน 2ฒญ 5341 กรุงเทพมหานคร ขับมาจากทางด้านถนนร่มเกล้ามุ่งหน้าไปทางแอร์พอร์ตเรียลลิงก์ รถมีลักษณะเอียงซ้าย น่าจะบรรทุกหนักมาก ขับส่ายไปมา พลเมืองดีจึงได้บีบแตรบอกเพื่อให้หยุดลงมาดูรถ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ แต่คนขับไม่ยอมจอด พยายามฝืนขับไปจนถึงซอยร่มเกล้า 27 จึงได้ขับไปจอดในลานจอดรถ พลเมืองดีจึงได้แจ้งให้ตำรวจไปทำการตรวจสอบ
ต่อมา พ.ต.ท.ธเนษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้า ได้เข้าไปทำการตรวจสอบพบรถตามที่ได้รับแจ้ง พบ นายอดิศร หรือฉายา "เล็ก ร่มเกล้า" ขณะกำลังตรวจดูรถ โดยพบว่าบริเวณด้านซ้ายมีอาการเอียงเนื่องจากแหนบหนัก น่าจะเกิดจากการบรรทุกสิ่งของเกินกำลังของรถ พอสอบถามเรื่องสิ่งของที่บรรทุกมา ทางผู้ต้องหามีอาการพิรุธ จึงได้แสดงตัวตรวจค้นภายในตู้ทึบ พบกระสอบปุ๋ยสีน้ำเงิน สีขาว บรรจุสิ่งของอยู่ภายใน มีเชือกมัดทำเป็นสายสะพาย และบางส่วนมีถุงพลาสติกสีดำห่อหุ้มไว้ จำนวน 37 กระสอบ เมื่อเปิดดูภายในพบว่าเป็นยาบ้า ทั้งหมดมีน้ำหนักประมาณ 5.5 ตัน
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พร้อม พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สส.บก.น.3 และ พ.ต.อ.ณัชพิสิษฐ์ เสียงหวาน ผกก.สน.ร่มเกล้า เข้าทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุ ทราบว่า นายอดิศร เป็นขาใหญ่ในย่านร่มเกล้าระดับหัวจ่าย โดยทางเครือข่ายสั่งยาบ้ามาจากแนวชายแดน แล้วขับส่งต่อกันมาเป็นทอด ๆ จากนั้นได้ไปรับรถที่ขนยามาจากริมถนนสุวินทวงศ์ ย่านบางน้ำเบี้ยว เพื่อนำไปเก็บไว้ในโกดัง แล้วจะทยอยนำออกจำหน่าย ขณะที่ขับรถมาพบว่าน้ำหนักมาก ระหว่างทางรถมีอาการลั่นเสียงดังปังปัง นึกว่ายางระเบิด เมื่อตรวจดูพบว่าแหนบหัก จึงฝืนขับมาจนถึงลานจอด อยู่ในระหว่างรอรถมาสับเปลี่ยน ก็ถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ เลขทะเบียน 2ฒญู 5341 กรุงเทพมหานคร พบว่าเป็นของบริษัทให้เช่ารถ อยู่ย่านลาดพร้าว 21 และจากการประสานงานกับทางบริษัทพบว่าเป็นป้ายทะเบียนที่ถูกสวม แล้วนำไปใช้นั้นทางบริษัทได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากมีใบสั่งจราจรในเส้นทางที่ไม่ได้วิ่งส่งมาบ่อยครั้งมาก โดยหมายเลขทะเบียนที่แท้จริงคือ 3ฒส 2598 กรุงเทพมหานคร เป็นรถยนต์ที่ทางขบวนการซื้อมาจากรถหลุดจำนำ เพื่อเอามาใช้งาน
เบื้องต้นชุดจับกุมได้แจ้งข้อหา ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง เพื่อดำเนินคดีและขยายผลจับกุมเครือข่ายต่อไป