เกิดเหตุสะเทือนขวัญในแวดวงการเมืองสหรัฐฯ อีกครั้ง เมื่อผู้สนับสนุนคนสำคัญของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกลอบสังหารขณะปราศรัยที่มหาวิทยาลัยในรัฐยูทาห์
(11 ก.ย.68) ฝูงชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา พากันวิ่งแตกตื่นหนีตาย หลังจาก ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายอนุรักษ์นิยม และผู้สนับสนุนคนสำคัญของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกคนร้ายใช้อาวุธยิงจนเสียชีวิต ขณะกำลังปราศรัยที่มหาวิทยาลัย ยูทาห์ วัลลีย์ (Utah Valley University) ยังไม่ชัดเจนว่า มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วหรือไม่
การลอบสังหาร ครั้งนี้ ถือเป็นความรุนแรงในแวดวงการเมืองสหรัฐฯ ต่อเนื่องจากกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์เคยถูกลอบสังหารในช่วงหาเสียงปีที่แล้ว 2 ครั้ง และการบุกยิง สส. พรรคเดโมแครตจนเสียชีวิตในบ้านพักเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุประธานาธิบดีทรัมป์ แถลงผ่านTruth Social แสดงความเสียใจและรู้สึกโกรธแค้นผู้ที่ลอบสังหาร ชาร์ลี เคิร์ก
นอกจากนี้เขายังได้ยกย่องเคิร์ก เป็นแบบฉบับชาวอเมริกันที่แท้จริง การลอบสังหารอันโหดร้าย ไม่อาจทำลายสิ่งที่เคิร์กเชื่อมั่นและพูดไว้ได้ แต่จะยิ่งทำให้เคิร์กกลายเป็นตำนาน และประชาชนเชื่อในสิ่งที่เคิร์กพูดไว้ขึ้น
ชาร์ลี เคิร์ก อายุ 31 ปี เป็นนักเคลื่อนไหวและอินฟลูเอนเซอร์ด้านการเมืองชื่อดัง เขามีแนวคิดอนุรักษ์นิยม แต่พร้อมที่จะโต้วาทีกับกลุ่มเสรีนิยม จึงมีส่วนสำคัญในการดึงคะแนนเสียงจากคนหนุ่มสาว จนทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา