รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา อ้าง ญี่ปุ่น ร้องขอให้ ไทย-กัมพูชา ให้กลับมาเปิดด่านชายแดนตามปกติ เพื่อให้ขนส่งสินค้าที่จำเป็นได้ตามปกติ เพื่อรักษาห่วงโซ่อุปทาน
วันนี้ (11 ก.ย. 68) สำนักข่าว Khmer Times ของกัมพูชา รายงานว่า พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา เผยหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee หรือ GBC) ไทย-กัมพูชา ในเกาะกง เมื่อวานนี้ (10 ก.ย. 68)
โดย พล.อ.เตีย เซรยฮา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ ไทยและกัมพูชา ต้องกลับสู่ภาวะปกติ ตามคำร้องขอของญี่ปุ่น ที่ต้องการให้ไทยและกัมพูชารีบกลับมาเปิดด่านชายแดนอีกครั้ง เพื่อให้สินค้าที่จำเป็นไหลเวียนได้ตามปกติ เพื่อการบำรุงรักษาห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญในภูมิภาค มิเช่นนั้นญี่ปุ่นอาจย้ายฐานการผลิต
ขณะที่ทางสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้แถลงการณ์เกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา ว่า
1. รัฐบาลญี่ปุ่น ยินดีอย่างยิ่งต่อการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา ในวันที่ 10 กันยายน โดยการหารือมีความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และผ่อนปรนการขนส่งสินค้าข้ามแดน นับเป็นผลสำเร็จที่สำคัญอย่างยิ่งในการก้าวไปสู่การดำเนินตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศ
2. นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่น ขอยกย่องต่อความพยายามด้านการทูตของทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ในครั้งนี้ รวมไปถึง ประเทศมาเลเซีย ที่มุ่งมั่นเดินหน้าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองประเทศในฐานะประธานอาเซียน
3. ความสัมพันธ์ในด้านความร่วมมืออันดีระหว่างกัมพูชาและไทยนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสงบสุขและการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อทั่วทั้งภูมิภาค รัฐบาลญี่ปุ่นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองประเทศจะยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและคลี่คลายความตึงเครียดลงอย่างสันติโดยผ่านการเจรจา รัฐบาลญี่ปุ่น จะยังคงพยายามส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดระดับความตึงเครียด รวมไปถึงการดำเนินตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่คนไทยจำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็น ในเพจของ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย วิพากษ์วิจารณ์ท่าทีของรัฐบาลญี่ปุ่น