วันนี้ (12 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้มีกลุ่มคณะครูจิตอาสาที่ผันตัวเองมาเป็นแม่ครัวคอยปรุงอาหาร เพื่อส่งให้ทหารตามฐานปฏิบัติการแนวหน้าวันละพันกว่าชุด โดยทำมาแล้วเกือบ 3 เดือน ใช้ทั้งเงินของตัวเอง และของที่ได้รับบริจาคมาจากคนรู้จักและทราบข่าว
นางรัตติกร สางห้วยไพร รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลไกยวินิจ เปิดเผยว่า ตนได้ทำอาหารตั้งแต่ก่อนมีการปะทะกัน โดยเริ่มทำตั้งแต่มีหน่วยทหารเข้ามาในพื้นที่ มีการรวมกลุ่มของจิตอาสา นำก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ ไปแจกในพื้นที่แนวหน้าปราสาทโดนตวล ผามออีแดง และ ช่องบก ซึ่งก็เริ่มทำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนถึงวันเกิดการปะทะกันในวันที่ 24 ก.ค. 68 ทางอำเภอประกาศให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ อ.น้ำยืน ผู้ปกครองจึงมารับเด็กนักเรียนกลับบ้านหมด วันนั้นโรงเรียนทำข้าวผัดหม้อใหญ่ นักเรียนกลับหมด ข้าวผัดยังไม่ได้แจกให้นักเรียน ตนจึงประสานไปทางหน่วยทหาร ก็มีหน่วยทหารมารับเอาไป
จากนั้นจึงเป็นการเริ่มต้นของการรวมตัวคุณครูและจิตอาสาในชุมชนทั้งหมด 6 คน มาช่วยกันทำอาหารส่งให้กับทหารที่ปฏิบัติสู้รบอยู่แนวหน้า โดยไม่กลัวอันตราย และยังคงปักหลักปรุงอาหารส่งกำลังบำรุงทหารจนถึงวันหยุดยิง ซึ่งน้อง ๆ ทหารก็ถามว่าไม่กลัวการปะทะกันหรือ ก็ตอบไปเมื่อถึงที่มันก็ต้องตายกันทุกคน จึงไม่กลัว ขอให้ทหารขวัญกำลังใจจากการกินอาหารที่ปรุงส่งไปให้ก็ดีใจแล้ว จึงได้เริ่มทำอาหารเลี้ยงทหารที่อยู่ตามฐานปฏิบัติการในพื้นที่ อ.น้ำยืน วันละ 3 มื้อ มาจนถึงทุกวันนี้ ตกเฉลี่ยวันละกว่า 1,000 ชุด ส่วนสิ่งของบางส่วนก็ได้รับบริจาคจากคนที่มีจิตใจเหมือนกัน ที่ขาดเหลือก็เอาเงินไปซื้อมาทำคิดเฉลี่ยใช้จ่ายวันหนึ่งประมาณ 20,000 บาท เป็นงบประมาณที่ได้มาจากโรงเรียนที่สนับสนุนมาให้ทำ
นางรัตติกร ยังบอกอีกว่า มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ที่ได้ดูแลทหารที่จากบ้านจากครอบครัวมาอยู่แนวหน้าช่วยปกป้องแผ่นดิน จึงควรจะได้รับการดูแลที่ดี ได้รับประทานอาหารเต็มที่จากเรา และจะทำต่อไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด ตอนนี้เราผูกพันจนเรียกกันแม่ลูก และในวันแม่ที่ผ่านมา ทหารเหล่านี้ก็ไม่ลืมที่จะลงจากฐานนำพวงมาลัยมาไหว้พวกแม่ ๆ ในครัว ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับแม่ครัวทุกคน
ด้าน จ.ส.อ.วีระชัย ยืนยาว ซึ่งเป็นทหารหน่วยหนึ่งที่มารับอาหาร กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดยุทธการก็ได้รับอาหารเป็นประจำทั้ง 3 มื้อ โดยอาหารจะอร่อยทุกมื้อ สำหรับคำขอบคุณอย่างเดียวไม่ได้ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เราเรียกแม่กันแล้ว เป็นแม่พระให้กับทหารที่มาช่วยยุทธการนี้เกือบทุกหน่วย ไม่รู้จะขอบคุณอย่างไร ถ้าไม่ได้ท่านสนับสนุนเรื่องอาหารคงลำบาก ขอให้แม่สู้ ๆ ไปด้วยกัน เพราะขอให้ท่านหยุดท่านก็ไม่ยอมหยุด จึงขอให้สู้เคียงข้างกันไปจนจบยุทธการไปด้วยกัน