อนุทิน เข้าทำเนียบฯ ตรวจสอบชื่อ ครม.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - วันนี้ นายอนุทิน ไม่ได้เข้าพรรคภูมิใจไทย แต่ช่วงบ่ายเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ประชุมส่วนราชการ ตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี ก่อนจะยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายวันนี้

เวลา 13.08 น.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นั่งรถยนต์ส่วนตัว เข้ามายังตึก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทยนำรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีมาส่งให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตรวจสอบคุณสมบัติ

หลังจากประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ได้เดินทางมาไหว้ศาลหลักเมือง แต่ช่วงที่ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำลังจะเดินขึ้นบันไดหอพระพุทธรูป ได้ลื่นจนเกือบล้ม ก่อนที่ นางสาวไตรศุลี จะมาช่วยพยุงไว้ได้

จากนั้นนายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี องค์หลักเมืองจำลอง ก่อนเข้าไปกราบสักการะไหว้ศาลหลักเมือง และจุดเติมน้ำมันตะเกียง พระประจำวันเกิด

หลังจากนั้น นายกฯ เปิดเผยว่า มาประชุมครั้งสุดท้ายกับหน่วยงานต่าง ๆ หลังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่งรายชื่อ ครม.ไปให้ตรวจสอบ ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเอกสารเพื่อกราบบังคมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรายชื่อคณะรัฐมนตรีแล้ว 

ส่วนการมาสักการะศาลหลักเมืองวันนี้ ขอพรให้ประเทศไทยมีความเจริญ รุ่งเรือง สงบ ประชาชนมีความสุข

จากนั้น นายกฯ เดินข้ามถนนไปวัดพระแก้ว โดยใช้เวลา 10 นาที

ก่อนเดินออกมา และบอกกับสื่อว่า เอาบุญมาฝากทุกคน พร้อมบอกว่า วันนี้เสร็จภารกิจ ที่เกี่ยวกับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรายชื่อคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังมีภารกิจอื่น ๆ อีกมากมายที่ยังต้องทำ

ก่อนที่นายกฯจะขึ้นรถกลับ ได้มีนักท่องเที่ยวชาวตุรกี ขอเข้ามาขอถ่ายเซลฟีด้วย ซึ่งนายกฯ บอกว่า “เวลคัมทูไทยแลนด์ กู๊ดลัค”

ส่วนกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้พรรคประชาชนที่เป็นนั่งร้านให้รัฐบาลชุดนี้ ช่วยตรวจสอบคุณสมบัติคณะรัฐมนตรีทุกคน เพื่อไม่ให้เกิด ครม.เต้าหู้ยี้

ทำให้นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาตอบโต้ นายจิรายุว่า จะยี้หรือไม่ยี้ อยู่ที่สังคม แต่ดูจากหน้าตารัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลนี้ดีกว่า 2 ปีที่ผ่านมา

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายเรือธง

คือ โครงการคนละครึ่ง ที่มีเสียงตอบรับที่ดี และนโยบายเรื่องการควบคุมราคาพลังงาน ที่มีแนวโน้มว่า ไตรมาสแรกของปีหน้า ค่าไฟฟ้าจะลดลงพร้อมปรับลดค่าเชื้อเพลิง