ทนายความคู่กรณีเจ้าอาวาส นำหลักฐานแจ้งความ

View icon 54
วันที่ 17 ก.ย. 2568 | 06.08 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ติดตามกรณีประเด็นร้อนวงการสงฆ์ หลังจากทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เปิดข้อมูลลับของเจ้าอาวาสวัดดัง ในจังหวัดปทุมธานีว่ามีการโอนเงินให้สีกาคนหนึ่งที่เยอรมนี เป็นเงินกว่า 12 ล้านบาท พร้อมย้ำว่ามีหลักฐานเยอะว่าเป็นการยักยอกเงินวัด และฟอกเงิน 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ทางวัดตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงเรื่องเงิน และความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าอาวาสวัดกับสีกา

เริ่มจากช่วงเช้าวานนี้ ทนายความที่รับมอบอำนาจจากสีกาคู่กรณีเจ้าอาวาส อาศัยอยู่เยอรมนี นำเอกสารหลักฐานเส้นทางการเงิน-สลิปการโอนเงินฉบับจริง  มามอบให้กับพนักงานสอบสวน กองปราบปราม เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินเจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี  หลังพบความผิดปกติของเส้นเงินที่ดึงเธอเข้าไปเกี่ยวข้อง

เนื่องจากก่อนเกิดเหตุเจ้าอาวาสวัด มอบหมายให้ลูกศิษย์ 2 คน นำเงินสดโอนเข้าบัญชีผู้เสียหายในประเทศเยอรมนี  4 ครั้ง รวม 12.2 ล้านบาท จากนั้นผู้เสียหายโอนต่อเข้าสมาคมในประเทศเยอรมนีจนหมด ก่อนทราบภายหลังว่า เงินจำนวนนี้เข้าบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส จนเธอถูกทางการประเทศเยอรมันกล่าวหาว่า เป็นผู้ต้องสงสัยฟอกเงินร่วมกับเจ้าอาวาส

ทนายความยอมรับว่า ผู้เสียหายถูกว่าจ้างจากพระเป็นรายเดือน ให้บริหารจัดการดูแลสมาคมและมูลนิธิสอนพุทธศาสนา โดยไม่ได้บอกตัวเลขว่าเท่าไร แต่ตัวเลขที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ คือเดือนละ 174,000 บาท

จากนั้นช่วงบ่ายทางทีมทนายความของวัดนาป่าพง แถลงปมร้อนเกี่ยวกับยักยอกเงินและการฟอกเงิน มีการเชื่อมโยงข่าวนั้นมายังวัดนาป่าพง และเจ้าอาวาสวัดนาป่าพง

เรื่องนี้เริ่มจากปี 2561 พระอาจาย์ ต้องการเผยแพร่คำสอนไปที่ต่างประเทศ แต่การจัดตั้งวัดในต่างประเทศมีความสลับซับซ้อนยุ่งยาก ต้องดำเนินการแบบมูลนิธิ หรือองค์การกุศล จึงแต่งตั้งสีกาคู่กรณีให้เป็นรองประธานก่อตั้งมูลนิธิ เนื่องจากพูดภาษาเยอรมันได้

พร้อมเปิดหลักฐานทุกฉบับว่าการโอนเงิน ไม่ใช่การให้โดยเสน่หา หรือ เป็นการฟอกเงิน เพราะเจ้าอาวาสไม่มีสัมพันธ์พิเศษกับสีกาคู่กรณี ซึ่งจุดประสงค์การโอนเงิน เพื่อจัดตั้งวัดและมูลนิธิ

ด้าน อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งของเจ้าอาวาสวัดนาป่าพง  ยืนยันว่า ไม่เคยคิดจะปกป้องพระที่กระทำความผิดจนทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย

แต่ที่ออกมาพูดวันนี้ ในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งที่มีโอกาสได้รับฟังจากปากพระอาจารย์ ที่มาเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ตนฟัง ตนจึงออกมาเป็นกระบอกเสียงเพื่อให้ทุกคนได้รับฟังความจากอีกฝั่งบ้าง

เพราะก่อนหน้านี้ ทุกคนรับรู้เพียงแค่คู่กรณีของพระอาจารย์เพียงเท่านั้น และจากการที่ตนได้พูดกับพระอาจารย์ ถึงประเด็นที่สงสัย ซึ่งพระอาจารย์สามารถตอบคำถามได้ทุกประเด็นจนสิ้นสงสัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง