สนามข่าว 7 สี - ปมร้อน คดีฟ้องร้องระหว่างเจ้าอาวาสวัดดัง จังหวัดปทุมธานี และสีกาที่ประเทศเยอรมนี กระทบความเชื่อบรรดาลูกศิษย์ ถึงขั้นทนายความวัดนาป่าพงตั้งโต๊ะชี้แจงประเด็นโอนเงินข้ามทวีป เมื่อปี 2561
คดีนี้เริ่มจาก สีกาพลอย ผู้เสียหาย ในประเทศเยอรมนี ว่าจ้างทนายความเข้าแจ้งความเอาผิด เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี ข้อหายักยอกทรัพย์ และ ฟอกเงิน
ต้นเหตุเพราะ สีกาพลอย ถูกตำรวจเยอรมันแจ้งข้อหาฟอกเงิน เนื่องจากตำรวจพบความผิดปกติเส้นเงิน เพราะเธอถูกว่าจ้างเป็นรายเดือนจากเจ้าอาวาส ให้ดูแลสมาคมและมูลนิธิพุทธศาสนาในประเทศเยอรมนี
เธอจึงย้อนกลับไปดูหลักฐาน พบว่าเงิน 12.2 ล้านบาท ที่ถูกโอนมาจากเจ้าอาวาส ไม่ได้ออกจากบัญชีวัดนาป่าพง แต่มาจากชื่อของลูกศิษย์วัด 2 คน และ บุคคลนอกวัด 1 คน เธอจึงรู้ทันทีว่าถูกหลอกใช้ และว่าจ้างทนายความดำเนินการฟ้องกลับ
เป็นเหตุให้ ทีมทนายความของวัดฯ ตั้งโต๊ะชี้แจงเส้นเงิน โดยเจ้าอาวาสไม่ได้ร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้ พร้อมเปิดหลักฐานการโอนเงินทุกฉบับว่า ไม่ใช่การให้โดยเสน่หา ไม่ได้เป็นการฟอกเงิน แต่เป็นเจตนาดีของเจ้าอาวาส ที่ต้องการนำเงินจัดตั้งวัดที่เยอรมนี เพื่อเผยแผ่คำสอน จึงแต่งตั้งสีกาคู่กรณีเจ้าอาวาส ซึ่งเก่งภาษาเยอรมัน ให้ดูแลสมาคมและมูลนิธิในประเทศเยอรมนี เพราะการจัดตั้งวัดในเยอรมนีเป็นเรื่องซับซ้อน ต้องดำเนินการแบบมูลนิธิ
พร้อมยืนยันว่า เจ้าอาวาส ไม่มีสัมพันธ์พิเศษกับ สีกาพลอย ต่อหน้าคณะลูกศิษย์จำนวนมากที่รับฟังเป็นสักขีพยาน
ส่วนกรณีที่เจ้าอาวาสมีส่วนไปพัวพันกับสีกาอีกคนหนึ่ง ลักษณะเชิงชู้สาว ทนายความขอไม่พูดถึง เพราะรับผิดชอบแค่เรื่องคดีอาญา
ด้าน อาจารย์เบียร์ ฅนตื่นธรรม ไม่ขอแสดงความคิดเห็น และไม่คิดปกป้องพระที่ทำผิด แต่ออกมาพูดในฐานะลูกศิษย์ที่ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับพระอาจารย์ในประเด็นที่สงสัย และพระอาจารย์สามารถตอบได้ทุกประเด็น
เช่นเดียวกับ แม่ค้า และผู้ปฏิบัติธรรมคนอื่น ๆ ในวัด บอกไม่เชื่อว่าเจ้าอาวาสจะมีเรื่องเสื่อมเสีย แม้ทีมข่าวจะเปิดภาพถ่ายคู่กับสีกาในต่างประเทศ ก็ยืนยันว่า เป็นภาพตัดต่อ
ด้าน ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ตัวแทนสีกาพลอย ยืนยันกับทีมข่าว 7HD ว่า สังคมกำลังหลงประเด็น เพราะคดีนี้มีการนำเงินของวัด 12.2 ล้านบาท โอนเงินให้ สีกาพลอย ก่อนที่เธอจะโอนเงินเข้าสมาคมฯ แต่กลับถูกย้ายจากบัญชีสมาคมฯ เข้าบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส ซึ่งผิดหลักกฎหมาย
นอกจากนี้ ทนายอนันต์ชัย ยังบอกว่า เมื่อติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก จึงทำให้กระบวนการต่าง ๆ ผิดเพี้ยน แม้ สีกาพลอย จะได้รับมอบอำนาจก็ยังเข้าข่ายความผิด เพราะเป็นบัญชีส่วนตัว และปลายทางเงินกลับไปอยู่ที่บัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส จึงต้องเป็นเรื่องของเจ้าอาวาสที่นำหลักฐานมาชี้แจง
ส่วนเรื่องคดีที่เกิดขึ้นที่ประเทศเยอรมนี เท่าที่ทราบมีคดีแพ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่มีคำตัดสินจากศาลเยอรมันว่าสีกามีความผิด ซึ่งสาเหตุที่มายุ่งเกี่ยวกับพระรูปนี้ เพราะความศรัทธาคิดว่าเป็นพระอรหันต์ แต่ภายหลังทราบความจริงจึงเสื่อมศรัทธา