นายกฯ ลั่น  4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ผลักดันเต็มที่

นายกฯ ลั่น 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ผลักดันเต็มที่

View icon 188
วันที่ 18 ก.ย. 2568 | 14.32 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
นายกฯ บอกมีเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ผลักดันเต็มที่ พร้อมแก้ไขปัญหาภาคเอกชนสู่นโยบายรัฐบาล ยืนยัน ทำทุกทางให้ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้เปรียบ ไม่ปิดกั้นนโยบายคนอื่น ขอให้วินวินทุกฝ่าย

วันนี้ (18 ก.ย.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทย โดยย้ำว่า ตนและทีมเศรษฐกิจพยายามที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุนหรือแก้ไข จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อเวลาเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว

การพบกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการที่ต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว ทั้งด้านการเงิน ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การส่งออก แรงงาน

เมื่อถามว่า มอบหมายให้ว่าที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมการทำงานอะไรบ้าง นายอนุทิน ย้ำว่า ทำทุกอย่างให้การค้าคล่องตัวราบรื่น ไม่เสียเปรียบคู่ค้า และเจรจาสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะให้เกิดกับประเทศไทยมากที่สุด ราคาพืชผลทางการเกษตร คำว่าพาณิชย์ไม่ใช่เฉพาะค้าขายกับต่างประเทศ แต่การค้าขายในประเทศก็ต้องทำให้มีความคล่องตัวสูงสุด ลดความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ ต้องทำควบคู่กันไปทั้งพาณิชย์และคลัง การจัดหาแหล่งเงินทุนเข้ามาอัดฉีดเพื่อให้มีเงินสภาพคล่องที่จะไปดำเนินการต่อ ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยบางทีไปต่อไม่ได้ เพราะหนี้เก่ากลายเป็นหนี้เสีย สินค้าค้างสต๊อก ไม่มีเงินหมุน รัฐบาลต้องขายของให้เขา แต่ต้องเลือกดูด้วยว่าเป็นลูกค้าชั้นดีมีความตั้งใจที่จะผลิตสินค้า ไม่ได้เอาเงินมาหมุนให้ผ่านไปวันๆ เมื่อเราดูแลจะนำเงินทุนไปต่อยอดและทำให้เขาค้าขายต่อได้

นาย อนุทิน ยืนยัน ในช่วงระยะเวลา 4 เดือน “เศรษฐกิจก็คงไม่ถอยหลังครับ” เรามีเวลาไม่นาน เป็นสัญญาที่เซ็นไว้คือ 4 เดือนยุบสภา 4 เดือนหลังจากการแถลงนโยบาย และการแถลงนโยบายจะเกิดขึ้นเมื่อทางคณะรัฐมนตรีได้ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเราเตรียมตัวร่างนโยบายที่รัฐบาลจะแถลงต่อรัฐสภาให้เป็นที่เรียบร้อย มีแก้นิดหน่อย วันนี้มาพบกับสภาหอการค้าไทยก็อาจจะมีบางจุดที่ปรับแก้ในส่วนของร่างนโยบายที่เราจัดทำไว้เกือบเสร็จแล้ว ปรับแก้ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราได้หารือ ที่เรามีความเห็นตรงกัน การเตรียมการทุกอย่างได้ทำไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เหลืออยู่ตามกระบวนการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ เราต้องรอให้ทุกอย่างเป็นไปตามนั้น จึงดำเนินการเข้าบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มตัว

“ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต้องพยายามอย่างเต็มที่ ตนใจกว้าง ไม่คิดหรอกครับถ้าผลักดันนโยบายนี้ออกไปจะเป็นนโยบายที่ตนไม่ได้คิดเอง อาจจะเป็นนโยบายของพรรคอื่น กลุ่มอื่น คนอื่น ตนคิดอย่างเดียว ถ้าเกิดประโยชน์กับประเทศกับประชาชน เวลามีอยู่แค่นี้มัวแต่ไปคิดว่ากลัวใครดีเด่นดังหรือได้เครดิต ถ้าทุกคนได้เครดิต ถ้าสำเร็จคนที่คิดโครงการนั้นก็ได้ ตนในฐานะผู้ผลักดันก็ได้ วินวินทั้งคู่ สิ่งที่สุดคือทุกคนต้องวินไม่ใช่คนหนึ่งชนะคนหนึ่งแพ้ ก็นำไปสู่ความขัดแย้ง ดึงซึ่งกันและกัน วินวินทั้งคู่ไม่ต้องสนใจใครจะได้เครดิต แต่ประชาชนได้ ตนไปหมด มีรูมีหนู” นายอนุทิน กล่าว