วันนี้ (18 ก.ย. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นางอรนุช กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ จับกุมนายวิเชียร , นายอัฐพงศ์ และ น.ส.จงกลณี กระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” โดยจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าร้านข้าวแกงแห่งหนึ่ง ต.ประด่าง อ.วังเจ้า จ.ตาก
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นางอรนุช เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติด ของ บช.ปส. เมื่อปี 2551 ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่กับ นายวิเชียร ในพื้น จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. จึงได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรม และพบว่า นางอรนุช น่าจะยังมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดอยู่เช่นเดิม โดยพบข้อมูลว่า นางอรนุช ได้ร่วมกับ นายวิเชียรฯ ไปรับยาเสพติดมาจากภาคเหนือ
จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมพบรถยนต์ สีขาว มีเส้นทางการเดินทาง สอดคล้องกับข้อมูลในทางสืบสวน คือ เข้าไปในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ กระทั่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ติดตามรถยนต์คันดังกล่าว มาถึงร้านข้าวแกงแห่งหนึ่ง ต.ประด่าง อ.วังเจ้า จ.ตาก จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพื่อทำการตรวจค้นรถยนต์
ปรากฏว่าพบยาเสพติดจำนวน 225 มัด หรือประมาณ 450,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในข้างประตูรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมกับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ในรถยนต์
จากนั้น ได้ขยายผลเข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ม.3 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นที่พักของนายวิเชียร และนางอรนุช ปรากฏว่า ตรวจยึดพยานหลักฐานพร้อมทรัพย์สินกว่า 50 รายการ
เบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 รับว่ายาบ้าของกลางลำดับที่ 1 เป็นของตนเองซื้อมาจากนายเหว่ย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จำนวน 225 มัด มัดละ 8,000 บาท เป็นเงิน 1,800,000 บาท เพื่อมาจำหน่าย ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ในราคามัดละ 9,000 บาท
และบางครั้งก็ส่งไปจำหน่ายที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในราคามัดละ 11,000 บาท ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 รับหน้าที่ร่วมนั่งมาในรถที่ขนยาเสพติด เพื่ออำพรางตบตาเจ้าหน้าที่เวลาที่พบด่านตรวจ ส่วนผู้ต้องหาที่ 4 รับหน้าที่เป็นผู้ขับรถ ซึ่งยาบ้าล็อตนี้หากถูกนำไปจำหน่าย จะมีมูลค่าถึง 20 ล้านบาท เบื้องต้นนำผู้ต้องหาและของกลางส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
