มอบตัวแล้ว "ไอ้จ่อย" พ่อเลี้ยงหื่นกามพยายามข่มขืนลูกเลี้ยงสาววัย 19 ปี แต่ไม่สำเร็จเลยชักมีดกระหน่ำแทงจนบาดเจ็บสาหัส เจ้าตัวอ้างเมาหนักจนขาดสติ ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง ขณะที่เหยื่อพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่พูดกับผู้เป็นว่าอยากตาย
วันที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. นายไพฑูล ไชยสุระ ผู้ใหญ่บ้านดอนแดง หมู่ 9 ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม ได้นำตัว นายจ่อย อายุ 48 ปี เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม หลังพยายามล่วงละเมิดทางเพศน้องมาย (นามสมติ) อายุ 19 ปี ในห้องนอน หมู่ 10 บ้านโพนค้อ ต.คำเตย อ.เมืองนครพนม โดยเหยื่อขัดขืนปกป้องพรหมจรรย์สุดฤทธิ์ ทำให้นายจ่อยโมโหใช้อาวุธมีดจ้วงแทงไม่ยั้ง ก่อนจะโดดหน้าต่างหลบหนีไปกับความมืด เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณตีสองของวันที่ 17 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา
โดยนายจ่อยมาพร้อมกับนายบวร อายุ 70 ปีผู้เป็นพ่อ และญาติพี่น้องกว่า 10 คน เพราะเกรงว่าจะถูกฝ่ายผู้เสียหายมาดักรอทำร้ายที่หน้าโรงพัก ซึ่งนายจ่อยสวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ใส่หมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า และร้องไห้ปาดน้ำตาพร้อมกล่าวขอโทษ เพราะวันนั้นเมาจนขาดสติ และไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง ในขณะที่นายไพฑูล ผู้ใหญ่บ้าน พยายามสะกิดแขนผู้ต้องหาตลอดเวลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้นำตัวไปสอบปากคำถึงสาเหตุ ที่ทำร้ายลูกเลี้ยงปางตายเช่นนี้
ขณะเดียวกัน นางอึ่ง (นามสมมติ) อายุ 46 ปี แม่ของน้องมาย และเป็นเมียของนายจ่อยผู้ต้องหา ได้เดินทางมาโรงพักเพื่อขอดูหน้าคนที่ทำร้ายลูกสาวตน ถ้าเห็นหน้าคำแรกที่จะถามคือ ”ทำไปได้อย่างใด” เพราะน้องมายแม้จะเป็นลูกเลี้ยง แต่ก็ห่วงใยผู้เป็นพ่อเลี้ยงคนนี้เสมอ มีอะไรอร่อยๆก็เก็บไว้ให้เขากิน เจ็บไข้ได้ป่วยก็พาไปหาหมอ ลูกเขาแท้ๆ ยังไม่เคยมาดูพ่อเลย ไม่คิดว่านายจ่อยจะกล้าทำกับลูกสาวตน ซึ่งนางอึ่งพูดไปก็มีน้ำตาไหลอาบแก้ม
ด้าน พ่อของผู้ต้องหาก็เล่าว่า ไม่รู้จริงๆ ว่าลูกชายไปก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้ เพราะอยู่กันคนละบ้าน พอทราบข่าวก็พยายามออกตามหา เพื่อให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งเมื่อคืน (18 ก.ย. 68) ผู้ใหญ่บ้านโทรมาบอกว่านายจ่อยตอนนี้อยู่กับตนในสวนยางพารา จะพาไปมอบตัวที่โรงพัก ตอน 10 โมง ปรากฏว่าตอนเวลา 9 โมง นายไพฑูล ผู้ใหญ่บ้านได้นำตัวนายจ่อยมาก่อนถึงเวลาดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเกรงญาติทางผู้เสียหายจะพากันมารุมทำร้าย เลยต้องมาก่อนเวลานัด 1 ชั่วโมง
นายไพฑูล ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า หลังก่อเหตุนายจ่อย เดินไปตามทุ่งนาและป่า ทีแรกตั้งใจจะไปตายเอาดาบหน้า ตอนกลางคืนก็นอนในเถียงนาชาวบ้าน พอดีเดินมาเห็นวัดและหมู่บ้าน จึงเปลี่ยนใจติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบนโรงพัก พบว่านางอึ่งซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกสะใภ้นายบวรพ่อนายจ่อย ยังไม่คลายความโกรธแค้น ร้องด่าและสาปแช่งให้ตายไม่ต้องผุดเกิดกัน และจะไม่ยอมให้อภัยทั้งสิ้น หากมีการขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล ตนก็จะไปคัดค้านเพราะเกรงครอบครัวจะไม่ปลอดภัย
ส่วนอาการของน้องมาย ยังคงอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู แม้จะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ภาวะปอดที่โดนแทงทำให้มีลมอยู่ในปอด และตามร่างกายพันด้วยผ้าพันแผลราวมัมมี่ เพราะถูกนายจ่อยจ้วงแทงหลายแห่ง ทานข้าวได้แค่คำสองคำเพราะเจ็บแผลที่ลำคอ และพูดกับนางอึ่งว่าอยากตาย ซึ่งมารดาได้ปลอบโยนว่าลูกต้องอยู่เพื่อแม่ หากหายดีแล้วก็กลับไปเรียนหนังสือต่อ ทางวิทยาลัยพยาบาลก็รอการกลับมาขอลูกตลอดเวลา
โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 2 ข้อหา ว่า “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น และได้กระทำโดยใช้อาวุธ รวมทั้งพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวนายจ่อยเข้าห้องควบคุม ญาติน้องมายด่าตะโกนไล่หลัง ซึ่งนายจ่อยหันมาส่งยิ้มเหมือนจะเยาะเย้ย ยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นหนักเข้าไปอีก