รัฐบาลตาลีบัน ประกาศห้ามใช้อินเทอร์เน็ตทั่วพื้นที่ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถาน อ้างเพื่อ "ป้องกันกิจกรรมที่ผิดศีลธรรม" และห้ามใช้หนังสือที่เขียนโดยผู้หญิงในการสอนในมหาวิทยาลัย อ้าง “ขัดต่อหลักชารีอะห์”
วันนี้ (19 ก.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลตาลีบัน ได้ประกาศเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ว่า ห้ามใช้อินเทอร์เน็ตทั่วพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งครอบคลุมหลายจังหวัด โดยระบุว่าเพื่อ "ป้องกันกิจกรรมที่ผิดศีลธรรม" ก่อนหน้านี้กลุ่มนี้เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร และความสัมพันธ์ชู้สาวระหว่างชาย-หญิงผ่านช่องทางออนไลน์
โดยครั้งนี้ถือเป็นการห้ามใช้อินเทอร์เน็ตครั้งแรก นับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองอัฟกานิสถาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 แม้ว่าจะมีการประกาศมาตรการอื่น ๆ รวมถึงการห้ามไม่ให้เด็กผู้หญิงเข้าเรียนระดับมัธยมปลาย และห้ามไม่ให้ผู้หญิงทำงานในหลากหลายสาขาอาชีพ
ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ข้อจำกัดนี้จำกัดเฉพาะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสงเท่านั้น ส่วนการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือจะยังคงใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งการตัดสายไฟเบอร์ออปติกส่วนใหญ่ทำให้สำนักงาน บ้านเรือน และธุรกิจอื่น ๆ ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
นอกจากนี้ รัฐบาลตาลีบัน ยังได้สั่งถอดถอนหนังสือที่เขียนโดยผู้หญิงออกจากหลักสูตรการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย และออกกฎห้ามสอนรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนและการคุกคามทางเพศ โดยมีหนังสือที่เขียนโดยผู้หญิงถูกแบนประมาณ 140 เล่ม แม้แต่หนังสือ “ความปลอดภัยในการใช้ห้องแลปเคมี” (Safety in the Chemical Laboratory) รวมอยู่ในบัญชีหนังสืออื่นรวม 680 เล่ม ที่ถูกระบุว่า “น่ากังวล” เนื่องจาก “ขัดต่อหลักชารีอะห์และนโยบายของตาลีบัน” และรัฐบาลยังสั่งห้ามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ สอน 18 วิชา อ้างว่า “ค้านต่อหลักการกฎหมายชารีอะห์และนโยบายของระบบ”