วันนี้ (22 ก.ย. 68) เมื่อเวลา 12.40 น. ที่ผ่านมา ที่วัดแก้วจันทราราม อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพเด็กชายวัย 2 ขวบ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และต่างกล่าวถึงความโหดเหี้ยมของผู้ที่ก่อเหตุ ทำได้แม้กระทั่งหนูน้อยที่กำลังน่ารักน่าชัง เป็นที่รักของครอบครัว เพื่อนบ้าน และญาติพี่น้องเชื่อว่า โดยผู้ที่ลงมือก่อเหตุคาดว่าเป็นพ่อเลี้ยง ที่อยู่กินกับแม่ของเด็กได้ประมาณ 5 เดือนเศษ
แม่ของเด็กชายที่เสียชีวิต บอกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา พ่อเลี้ยงอ้างว่าหยอกล้อชกต่อยท้อง แล้วน้องเกิดอาการหมดสติไป และได้นำตัวส่งโรงพยาบาลโคกสำโรง แต่น้องได้เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล โดยแพทย์ได้ตรวจสอบ พบว่าบริเวณท้องน้องยูพบมีร่องรอยฟกช้ำหลายแห่ง จึงส่งศพไปชั้นสูตรที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เพื่อให้แพทย์ได้ทำการผ่าพิสูจน์ จากนั้นจึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง เพราะสงสัยว่า นายไม้ สามีใหม่ และเป็นพ่อเลี้ยง ทำร้ายลูกชายตนจนเสียชีวิต โดยล่าสุดแพทย์ได้สรุปการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บในช่องท้องอย่างรุนแรง อวัยวะฉีกขาด ตับแตก ปอดฉีก ม้ามแตก อันเป็นผลจากถูกการกระแทกอย่างรุนแรง
แม่ของเด็กที่เสียชีวิต บอกอีกว่า ตนกับนายไม้ได้อยู่กินด้วยกันเพียง 5 เดือน ทำงานโรงงาน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตนได้ลางานกลับมาเที่ยวบ้านมาหาลูกด้วยความคิดถึง ซึ่งได้ฝากย่าของน้องเลี้ยงเอาไว้ แต่หลังจากไปรับลูกชายที่บ้านย่ามาเลี้ยงที่บ้านแม่ของนายไม้ กลางคืนก็จะนอนอยู่กับแม่นายไม้ที่บ้านอีกหลัง ส่วนตนกับนายไม้แยกมานอนด้วยกันบ้านอีกหลังใกล้กัน ช่วงกลางวันนายไม้ได้ไปเล่นอยู่ลูกชายตนเพียงลำพัง จากนั้นได้รับบาดเจ็บ นายไม้ก็นำตัวไปส่งที่โรงพยาบาล แล้วกลับมาบอกกับตนที่บ้านว่าน้องเป็นไรไม่รู้หมดสติ แต่พอไปดูอาการลูกชายพบว่าเสียชีวิตแล้ว เมื่อถามนายไม้ยอมรับว่าได้เล่นหยอกล้อ ต่อยท้องน้องเท่านั้นเอง ตนเองรู้สึกโกรธแค้น และไม่เชื่อว่าจะหยอกล้อแบบพ่อลูก จึงไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับนายไม้ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้เรียกตัวมาสอบปากคำ ก่อนปล่อยตัวไป เนื่องจากไม่พบความผิด แต่ได้บันทึกถ้อยคำสอบประวัติไว้เบื้องต้น
ด้าน พ.ต.อจาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.โคกสำโรง เปิดเผยว่า ขั้นตอนแรกได้ส่งศพเด็กไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์แล้ว หลังจากทราบผลการชันสูตรจากแพทย์ สอดคล้องกับการสอบสวนพยาน หลักฐาน ที่เชื่อว่านายไม้เป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุ แม้จะปฏิเสธ แต่ทางตำรวจมีหลักฐานเพียงพอจะนำตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง หากผิดจะได้แจ้งข้อกล่าวหา และออกหมายจับต่อไป