ห้องข่าวภาคเที่ยง - ทหารกัมพูชา ยังมีกิจกรรมแปลกมาให้เห็นทุกวัน บางวันฝึกร่างกาย บางวันเล่นของ บางวันไหว้ที่หลับที่นอน ล่าสุดกัมพูชาดิ้น หลังไทยได้นายอนุทินเป็นนายก คนใหม่
ส่วนบรรยากาศภายในฐานของทหารกัมพูชาตอนนี้ ดูเหมือนว่าการลงอาคมของพระกัมพูชาจะไม่เห็นผล เพราะยังต้องจุดธูป 4 ดอก บริเวณที่พักของตนเอง ขอพรให้เจ้าป่าเจ้าเขาทั้ง 4 ทิศ ปกปักษ์รักษาให้ปลอดภัย
กัมพูชา ดิ้น หลังประเทศไทยได้นายอนุทิน เป็นนายกคนใหม่ ระบุว่า นายกคนใหม่ของเสียม อันตรายกว่านายกคนเดิม รองนายกฯ เสียมแถลง "คนไทยทั้งประเทศ ปิดชายแดนกัมพูชา นายกฯ เสียม ทำเอาใจชาวเสียม ดึงความนิยม ก่อนยุบสภาอีก 4 เดือน"
ขณะที่ชาวเน็ตเข้า ไปคอมเมนต์ว่า "ถ้ากัมพูชายิ่งก่อกวน จะยิ่งเจอนายกที่อันตรายมากขึ้น เรื่อยๆ" "ต้องขอบคุณอังเคิลของหลาน ที่ทำให้มีนายกคนใหม่ขึ้นมาแืน ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นนายกอนุทิน แต่เป็นใครก็ได้ที่ฟังเสียงประชาชน ใครก็ได้ที่เห็นด้วยให้ปิดด่านตามคำเรียกร้อง" "แสดงว่ากัมพูชากร หนูจนออกอาการ" และ "นอกจากจะปิดด่านแล้ว จะยังเอาอธิปไตยคืนด้วยนะ"
ย้อนกลับไปวันที่ นายอนุทิน ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ร่อนจดหมายมาแสดงความยินดี แสดงความเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำอันชาญฉลาด และด้วยศักยภาพของนายอนุทิน ประเทศไทยจะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
ในฐานะที่กัมพูชาและไทย เป็นเพื่อนบ้านกัน นายฮุน มาเนต ยังหวังว่าจะได้ทำงานร่วมมือกับนายอนุทิน เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทย ให้กลับสู่ภาวะปกติดังเดิม
จับตาท่าทีกัมพูชาในเวทีสหประชาชาติ ขณะที่ สื่อมวลชนเตือนนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระวังการแสร้งทำตัวเป็น "เหยื่อ" ของกัมพูชา
สื่อมวลชนต่างชาติจับตาท่าทีของ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ที่เริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะกัมพูชาอาจใช้โอกาสนี้กล่าวหาไทย กรณีการสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงชาวกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว โดยอ้างว่าเป็นการประท้วงโดยสันติ จึงเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ มาตรา 2(3) และ 2(4) ซึ่งกำหนดให้มีการระงับข้อพิพาทโดยสันติ และอาจใช้เวทีสหประชาชาติกดดันไทยให้ยึดข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด
ก่อนหน้านี้ ฮุน มาเนต เคยขอให้คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ หรือ UNSC จัดประชุมฉุกเฉินมาแล้ว หลังเกิดเหตุสู้รบชายแดนไทยกัมพูชา ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน มาเลย์เมล สื่อมาเลเซีย ลงบทความของนักวิชาการด้านเอเชียศึกษาที่เตือนรัฐบาลของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ให้ระวังการแสร้งทำตัวเป็นเหยื่อถูกรังแกของกัมพูชา หากรับข้อมูลจากฝ่ายกัมพูชาเป็นหลัก กรณีข้อพิพาทในพื้นที่จังหวัดสระแก้วของไทย เพราะฝ่ายไทยยืนยันว่าพื้นที่ที่มีการประท้วง ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน แต่อยู่ในเขตดินแดนของไทย และกัมพูชายังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการลอบวางทุ่นระเบิด, ใช้โดรนรุกล้ำชายแดนไทยด้วย จึงต้องฟังความและหลักฐานที่ครบถ้วนจากทั้ง 2 ฝ่าย อย่าตกเป็นเครื่องมือหรือถูกมองว่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งอาเซียน และเป็นหุ้นส่วนสำคัญด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงในภูมิภาคนี้
ด้าน รศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ มองว่า ท่าทีนายอันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ออกมาเรียกร้องให้ไทยและมาเลเซีย ลดความรุนแรงในการเผชิญหน้า ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะฝ่ายที่ยกระดับความรุนแรง คือ กัมพูชา ไม่ใช่ ไทย ทั้งที่มีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว นำทีมโดยมาเลเซียอยู่ในพื้นที่ เห็นข้อเท็จจริง ก่อนที่มีการเผชิญหน้ากัน
ฝ่ายไทยเรา มีข้อสังเกตมาตั้งแต่แรกแล้วว่า กัมพูชามีพันธมิตร มาเลเซียอาจไม่ได้เป็นกลางมากนัก ในระดับนโยบาย ระดับผู้นำ ทั้งที่ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย เห็นข้อเท็จจริง เข้าใจปัญหา และยังให้ความเห็นลักษณะว่า ฝ่ายกัมพูชามีปัญหามาก