“ก.ต่างประเทศ” ระดมสรรพกำลัง ร่วมวง UNGA สกัด “กัมพูชา” หลอกลวงชาวโลก แตะไทยเมื่อไหร่ เจอตอบโต้แน่
วันนี้ (23ก.ย.68) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวการประชุมและกิจกรรมคู่ขนานระดับสูงในช่วงสัปดาห์ผู้นำของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 (UNGA 80 High-level Week) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
นายนิกรเดช กล่าวว่าการประชุมสมัชชาสหประชาชาติมีความสัมพันธ์อย่างยิ่งและเป็นเวทีพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นทุกปี ให้ผู้นำและผู้แทนระดับสูงของแต่ละประเทศได้กล่าวอภิปรายเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่ประสงค์จะผลักดันในเวทีระหว่างประเทศ ในฐานะรัฐสมาชิกที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลกและสนับสนุนระบอบพหุภาคี เป็นโอกาสให้ไทยได้พบผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติและประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงของท่าทีของไทยในประเด็นสำคัญ
ในปีนี้ประธานฯ ได้กำหนดหัวข้อในการประชุมสมัชชาสมัยสามัญครั้งที่ 80 ภายใต้ชื่อ “Better together: 80 years and more for peace, development and human rights” ให้รัฐสมาชิกได้สะท้อนผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับการพัฒนาขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชนร่วมกัน โดยประเด็นที่ไทยจะให้ความสำคัญ ประกอบด้วย การส่งเสริมสันติภาพความมั่นคงที่ยึดกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และกฎหมายระหว่างประเทศเป็นที่ตั้ง การกำหนดทิศทางและเครื่องมือสำคัญรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก บทบาทของไทยในการเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ และการพัฒนาที่ยั่งยืนพร้อมกับปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยยึดหลักการมนุษยธรรม
สำหรับหัวหน้าคณะในการที่จะไปประชุม กระทรวงการต่างประเทศพร้อมสนับสนุนการเข้าร่วมของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะต้องรอความแน่นอนจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษในวันที่ 24 ก.ย.นี้ โดยตนเองจะแจ้งความชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 25 ก.ย.68
จากเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สอบถาม เมื่อถามว่าทุกวงประชุมกัมพูชาจะสอดแทรกเรื่องปัญหาชายแดนเข้ามาด้วยในเวที UNGA ทางการไทยเตรียมรับมืออย่างไรบ้าง นายนิกรเดชกล่าวว่าเราเตรียมไว้หลายฉากทัศน์ หากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไป จะมีการกล่าวถ้อยแถลงในภาพกว้างในเรื่องที่ไทยสนับสนุนวาระการประชุมของสหประชาชาติ ซึ่งจะมีเรื่องสิทธิมนุษยชน สันติภาพ ความมั่นคงอยู่ด้วย หากฝ่ายกัมพูชาหยิบยกและสอดแทรกประเด็นที่เกี่ยวกับประเทศไทยจะมีกลไกอย่างหนึ่ง คือ สิทธิในการตอบโต้ เราได้เตรียมข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้ว
หากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้เดินทางไปเอง ก็จะมีผู้แทนโดยลดระดับลงมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติณนครนิวยอร์ก ซึ่งการประชุมจะมีหลายกรอบมาก มีอธิบดีหลายคนที่เข้าร่วมเป็นผู้แทนในกรอบต่างๆ จะมีอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ อธิบดีกรมอาเซียน อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รวมถึงตนเอง ในฐานะอธิบดีกรมสารนิเทศด้วย