ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผลพวงจากถนนสามเสนทรุด ไม่จบแค่ชะลอการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าออกไปเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงที่จะต้องรื้ออาคารโรงพัก สน.สามเสน มูลค่า 40 ล้านบาท ที่เพิ่งสร้างไปหมาด ๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจที่อยู่ด้านหลังด้วย
จะเปิดใช้งานอยู่แล้วในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แต่ตอนนี้ต้องมาลุ้นกันว่าจะต้องรื้ออาคารโรงพัก สน.สามเสน มูลค่า 40 ล้านบาท เพื่อสร้างขึ้นใหม่หรือไม่
เพราะถ้าดูด้วยตาจะสังเกตเห็นว่า เสาเข็มหักไป 2 ต้น ไม่มีกำแพงดินกันตัวอาคาร กรณีเลวร้ายสุดที่เป็นไปได้ หากดินไม่หยุดไหล แล้วไหลไปทิศทางถนน ก็จะทำให้ถนนยุบเพิ่ม หรือถ้าไหลไปทางด้านข้าง ก็อาจไปดันเสาเข็มให้หัก แล้วทำให้ตัวอาคารพลิกคว่ำลงมาได้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ก็ลงพื้นที่ไปดูสภาพจริง ใช้ตลับเมตรวัดระยะรอยแยก เสาค้ำยันอาคาร โครสร้าง สน. และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เบื้องต้น พบมีร่องรอยการแยกตัวจากพื้นจนเห็นได้ชัดอย่างมีนัยยะ ส่วนจะต้องตัดสินใจอย่างไร ต้องให้เจ้าของอาคารหารือกับผู้รับผิดชอบอีกที
ดร.ธเนศ ให้ข้อมูลว่า ถ้าสมมติอาคาร สน. แห่งนี้พังตัวลงมา จะทำให้แฟลตที่พักข้าราชการตำรวจได้รับผลกระทบไปด้วย และเมื่อนั้นก็อาจต้องรื้อตามกันไป แต่ขณะเดียวกันก็มีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญอีกคนว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่จะกู้สถานการณ์ด้วยการเสริมกำลังเสาเข็ม แต่ก็มีเงื่อนไขว่า จะต้องไม่มีดินไหลเพิ่ม หรือฝนตกลงมาซ้ำ
เจ้าของอาคาร ก็คือ "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" มีการเซ็นรับโอนจากผู้รับเหมา มาเป็นทรัพย์สินของทางราชการแล้ว พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจที่ สน.สามเสน ชั่วคราว บอกว่า เรื่องการดูแลประชาชนก็คงต้องเช่าอาคารนี้ต่อไปอีกระยะ ส่วนครอบครัวข้าราชการตำรวจ ตอนนี้ได้ประสานไว้ 3 ที่ สำหรับเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวระยะยาว
เรื่องความเสียหายกับตัวอาคารโรงพักแห่งใหม่ จากข้อมูลตามรายงานสรุปว่า ตอนนี้เสาเข็มที่ค้ำยันหักไป 3 ต้น มีดินไหลออกมา 15 เมตร จาก 20 เมตร ของความยาวตัวอาคาร อีกทั้งยังมีเสาไฟฟ้าล้มฟาดใส่ตัวอาคารได้รับความเสียหาย รวมทั้งชั้นใต้ดินของแฟลตตำรวจก็มีดินไหลเข้าไป ตอนนี้ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ อยู่ระหว่างการประเมินตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องผู้รับผิดชอบ ได้หารือกับทาง รฟม. แล้ว ยืนยันจะเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ยังไม่สามารถกำหนดเรื่องระยะเวลาได้ รวมถึงการกลับเข้าไปอาศัยในแฟลตข้าราชการตำรวจด้วย ส่วนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ตอนนี้มีคนมาแจ้งความแล้ว 11 คน
ทั้งนี้ มีการให้คำแนะนำไปถึงครอบครัวข้าราชการ ที่ต้องการย้ายยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ 40 คัน ที่จอดอยู่ สามารถย้ายออกไปได้ แต่ต้องไม่สตาร์ตเครื่องยนต์ ไม่เช่นนั้นเกรงจะส่งผลกระทบทำให้เกิดการสั่นไหวต่อพื้นดินได้