ขอขมา องค์หลวงพ่อพุทธสามเสน

View icon 78
วันที่ 26 ก.ย. 2568 | 16.02 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตัวแทน ช.การช่าง ไปกราบขอขมา "องค์หลวงพ่อพุทธสามเสน" หลังเคลื่อนย้ายจากหลัง สน.สามเสนแห่งใหม่ มาประดิษฐานที่ สน.สามเสน ชั่วคราว เพราะเกรงจะได้รับความเสียหาย

และเข้าพูดคุยกับ รองสารวัตรจราจร สน.สามเสน เจ้าของรถคันที่ตกลงไปในหลุม เพื่อเสนอเยียวยาชดใช้ความเสียหายให้ ซึ่งก็ยืนยันจะชดใช้ให้ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นจ่ายเงินสด หรือซื้อรถยนต์คันใหม่ เบื้องต้น ร้อยตำรวจเอก รัชฏ์วิทย์ ก็ขอบคุณ และพูดติดตลกว่า ถ้าอนาคตใครเจอรถอยู่ในสถานีวชิร ก็ฝากถ่ายรูปมาให้ดูด้วย

ขณะที่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล หลังกลับมาเปิดให้บริการเป็นวันแรก ก็มีประชาชนและผู้ป่วยจำนวนมากทยอยเดินทางเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางมะลิวรรณ ลูกสาว ที่พาคุณแม่อายุ 100 ปี มาพบแพทย์ตามนัด บอกว่า หลังทราบข่าวเรื่องถนนทรุด ครอบครัวก็ต้องวางแผนเดินทางใหม่หมด ออกจากบ้านให้เร็วขึ้น เผื่อเวลาเดินทาง ซึ่งก็มาถึงโรงพยาบาลตามนัดหมายได้ทันเวลา

ด้าน ผู้อำนวยการเขตดุสิต ยอมรับว่า วันนี้เรื่องการจราจร ยังมีผู้ขับขี่โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์เกิดความสับสนอยู่บ้าง ส่วนเรื่องสาธารณูปโภคในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้น้ำประปาและอินเทอร์เน็ตใช้งานได้ตามปกติ ไฟฟ้ายังมีปัญหาดับเป็นบางจุด กำลังดำเนินการแก้ไข

ส่วนการดูแลประชาชนที่ยังเป็นห่วง คือ กลุ่มที่เช่าตึก หรือหอพัก ยังไม่พบว่ามีใครมาติดต่อขอความช่วยเหลือ จึงฝากให้มาลงทะเบียนกับเขต ส่วนผู้พักอาศัยตามบ้านเรือน ก็แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านเว็บฯ ของสำนักงานเขตดุสิต เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม

อาคาร สน.สามเสน มูลค่า 40 ล้านบาท ที่ตอนนี้ดูภายนอกอาจคิดว่าไม่น่าเป็นอะไรมาก แต่ภายในฐานรากต้องใช้คำว่าระเบิดเวลาดี ๆ นี่เอง ถ้าเกิดอะไรผิดพลาด เช่น ดินไหลเพิ่ม ตัวอาคารลาดเอียงไปมากกว่าเดิม หรือมีรอยแยกใหม่ โอกาสที่จะกระทบไปถึงโครงสร้างแฟลตตำรวจจะสูงมาก

เหตุถนนทรุดตัวเป็นวงกว้าง ทำให้ดินไหลลึกลงไปกว่า 50 เมตร อาคาร สน.สามเสน ส่วนที่ได้รับผลกระทบอยู่ด้านหน้า มองจากด้านข้าง ดินไหลลงไปในหลุม 15 เมตร จาก 20 เมตร และทำให้ในแนวดิ่งดินไหลจากพื้นดินห่างตัวอาคารอยู่ที่ 23 เมตร มีเสา 2 ต้น ด้านหน้าหัก ลอยเหนือพื้นดินเห็นชัดเจน แต่จากการสำรวจจริง ๆ แล้วมีอีก 1 ต้น ที่หักด้วย นอกจากนี้ ถ้าเรามองตรง ๆ เข้าไป จะเห็นเสาไฟฟ้าล้มทับด้านข้างขวาของตัวอาคารได้รับความเสียหาย และข้าง ๆ อาคารก็มีดินไหลลงไปในหลุมอีกส่วนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ยังมีดินไหลเข้าไปในแฟลตตำรวจ ทำให้เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ขึ้นมา ถ้าอาคารแห่งนี้พังก็จะดึงเอาแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจด้านหลังพังไปด้วย

ดูจากภาพสแกน 3 มิติ จะพอสังเกตได้ว่าแนวโน้มที่อาคารจะล้ม ถ้าจะล้มก็ต้องไปทางด้านหน้า เหมือนเวลาที่ตัดต้นไม้แล้วกำหนดทิศทางล้ม แต่ที่ยังไม่ล้มเพราะเสาค้ำยันต้นอื่น ๆ ยังดึงรั้งไว้ได้อยู่ ทำให้ค่าความเอียงของอาคารยังอยู่ที่ 0.01 มิลลิเมตร ยังไม่ถึง 0.25 มิลลิเมตร ที่จะเข้าขั้นวิกฤต

สอบถาม ศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ยืนยัน ยังไม่พบรอยแยกเพิ่ม ก็ยังย้ำเหมือนเดิมว่าต้องไม่กลับเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงชั่วคราว ทำให้รถยนต์ รถจักรยานยนต์จอดคาอยู่ที่ สน. ยังไม่ถูกเคลื่อนย้ายไปไหน

เช่นเดียวกับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง อย่างชายคนนี้ที่ต้องไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ยอมรับแม้จะสะดวกตรงที่มีแพทย์ดูแลใกล้ชิด เพราะคนในบ้านหลายคนมีทั้งที่ป่วยเป็นมะเร็ง และโรคหัวใจ แต่ก็ไม่สะดวกใจ ที่สำคัญจนถึงตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะรับผิดชอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง