เวลา 13.50 น. วันนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังโรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดงาน "วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก" ประจําปี 2568 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับคณะกรรมการและอนุกรรมการขับเคลื่อน การดําเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนให้เห็นถึงความสําคัญ และอันตรายของโรคพิษสุนัขบ้า ลดการแพร่ระบาดและการเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า เน้นย้ำถึงความก้าวหน้าของการเอาชนะโรคนี้ ซึ่งนอกจากวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่เป็นเครื่องมือสําคัญป้องกันการเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว การสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนยังเป็นปัจจัยสําคัญที่ทําให้ประสบความสําเร็จในการกําจัดโรคพิษสุนัขบ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปี 2568 ทั่วโลกร่วมกันรณรงค์ภายใต้แนวคิด "Act Now: You, Me, Community อย่ารอช้า! รวมพลัง หยุดยั้งพิษสุนัขบ้า" เพื่อเรียกร้องให้ทุกคนตระหนักถึงบทบาทของตนในการร่วมกําจัดโรคพิษสุนัขบ้าอย่างจริงจังอันจะนําไปสู่การปลอดโรคพิษสุนัขบ้าที่ยั่งยืน
โอกาสนี้ พระราชทานโล่รางวัลแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับการรับรองเป็นจังหวัดปลอดโรคพิษสุนัขบ้า, พระราชทานโล่รางวัลแก่ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดผลงาน Thailand Rabies Awards ปี 2567 และ 2568, พระราชทานโล่รางวัลแก่ผู้แทนหน่วยงานที่สนับสนุนการดําเนินงานยุทธศาสตร์ที่ 3 โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธาน ฯ
จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการ World Rabies Day 2025 จากหน่วยงานภาคีเครือข่าย อาทิ กรมปศุสัตว์, คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรมควบคุมโรค, กระทรวงมหาดไทย, กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, กรมประชาสัมพันธ์ และสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ร่วมกันจัดแสดงยุทธศาสตร์การดําเนินงานด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก, องค์การสุขภาพสัตว์โลก, องค์การอาหารและน้ำเพื่อการเกษตรแห่งสหประชาชาติ และองค์การพันธมิตร ได้ร่วมกันประกาศให้วันที่ 28 กันยายน ของทุกปี เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลกเพื่อใช้เป็นเวทีรณรงค์ระดับโลกในการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการกําจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปภายในปี 2573 ตามเป้าหมาย "Zero by 2030"