คนร้ายวัย 40 บุกเข้ากราดยิงในโบสถ์มอร์มอน รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐฯ และจุดไฟเผาโบสถ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และบาดเจ็บอีก 8 คน ก่อนคนร้ายจะยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่และถูกวิสามัญฯ
วันนี้ (29 ก.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายขับรถยนต์พุ่งชนประตูหน้าโบสถ์คริสต์ลัทธิมอร์มอน ในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐฯ หลังจากนั้นได้เปิดฉากกราดยิงด้วยปืนไรเฟิลและจุดไฟเผาโบสถ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 8 คน เมื่อวานนี้ (28 ก.ย. 68) ตามเวลาท้องถิ่น
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายโทมัส เจคอบ แซนฟอร์ด (Thomas Jacob Sanford) อายุ 40 ปี อดีตทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ จากเมืองเบอร์ตันที่อยู่ใกล้เคียง โดยคนร้ายได้วางเพลิงโบสถ์อย่างมีเจตนา ซึ่งทำให้โบสถ์ถูกไฟไหม้และมีควันพวยพุ่งออกมา และเหยื่อที่ถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ และผู้บาดเจ็บอีก 8 คน ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว และตำรวจยังพบศพอีกอย่างน้อย 2 ศพ ในซากโบสถ์ที่ถูกเพลิงไหม้ ซึ่งยังไม่สามารถเก็บกู้ร่างออกมาได้ และอาจมีร่างของเหยื่อคนอื่น ๆ อยู่ในซากโบสถ์นั้นด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุมีเจ้าหน้าที่ 2 นาย เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุภายในเวลา 30 วินาที และได้ยิงต่อสู้กับคนร้าย จนคนร้ายถูกวิสามัญฯ ในที่จอดรถ ภายในเวลาประมาณ 8 นาทีหลังจากเริ่มเกิดเหตุ
ทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้กล่าวผ่าน ทรูธ โซเชียล ว่า ผมได้รับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขี้นแล้ว บนทรูธโซเชียลเขาระบุว่าเป็น การโจมตีครั้งนี้เหมือนจะเป็นการโจมตีแบบเจาะจงต่อคริสเตียนในสหรัฐอเมริกาอีกครั้งหนึ่ง ผมขอภาวนาให้เหยื่อและครอบครัว ความรุนแรงในสหรัฐฯ จะต้องยุติลงโดยทันที
ทั้งนี้ จากข้อมูลจาก Gun Violence Archive ซึ่งจะคอยเก็บสถิติเหตุกราดยิง เผยว่า เหตุกราดยิงที่รัฐมิชิแกนครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์กราดยิงครั้งที่ 324 ในสหรัฐฯ ภายในปี 2568 และเป็นเหตุกราดยิงครั้งที่ 3 ในสหรัฐฯ ภายในรอบไม่ถึง 24 ชั่วโมง ซึ่งรวมถึงเหตุกราดยิงที่นอร์ธแคโรไลนา และเหตุกราดยิงที่คาสิโน ในรัฐเท็กซัส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และบาดเจ็บอีกหลายคน