อยากขายบ้าน หนีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

อยากขายบ้าน หนีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

View icon 144
วันที่ 30 ก.ย. 2568 | 10.30 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชาวศรีสะเกษตัดพ้อ อยากขายบ้าน ขายไร่ ขายนา หนีไปอยู่ไกลๆ จากพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ไหน แล้วใครจะกล้ามาซื้อที่ เผยเหนื่อยกับการอพยพ ทำงานก็ไม่ได้ เงินก็จะหมด รถคงต้องปล่อยให้โดนยึด

วันที่ 30 กันยายน 2568 ที่หมู่บ้านตามแนวชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ ในเขตตำบลเสาธงชัย ที่ห่างจากชายแดนราว 3 กิโลเมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาไร่ และปลูกมันสำปะหลัง มีสวนยาง ที่อยู่ติดแนวชายแดน บนภูเขา ช่องภูผี ติดเขาสัตตาโสม ติดเทือกเขาพนมดงรัก ช่องดำผกา ที่อยู่ตรงหมู่บ้านป่าหญ้าคา ที่ชาวกัมพูชา อพยพมาอยู่สมัยเขมร 3 ฝ่าย ไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กัน เผยว่า เมื่อก่อนก็ไปมา ขายค้ากันได้ ชาวบ้านแถบนี้จากเดิมที่เคยมีรายได้จากทั้งการทำไร่ ทำนา กรีดยาง ปลูกมันฯ แต่ทุกวันนี้ นับตั้งแต่มีเหตุปะทะมา ไปไร่ไปนาก็ไม่ได้ ไปกรีดยางก็ไม่ได้ ทุกวันต้องคอยเก็บเสื้อผ้า ข้าวของใช้ที่จำเป็นใช้ รวมทั้ง ครก สาก เครื่องครัว พร้อมอพยพทุกวัน นอนก็นอนไม่หลับ คอยฟังเสียงปืน คอยฟังประกาศจากผู้ใหญ่บ้าน

นางทองสุข อายุ 57 ปี กล่าวว่า ตอนนี้สงสารหลาน 2 ขวบ วันนี้อยากขายบ้าน ขายที่ไร่ ที่นา หนีไปไกลๆ จากพื้นที่ชายแดน ไปอบู่พื้นที่ปลอดภัย แต่ก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ไหน และจะมีใครกล้ามาซื้อที่ ตนมีที่ไร่ ที่นา อยู่ติดชายแดน ก็ไปทำไม่ได้แล้ว ที่ลำบากมากก็คืองวดรถยนต์ งวดรถไถก่อนหน้านี้ได้ใช้เงินไร่ละ 1,000.-บาท ตอนนี้ก็หมดแล้ว สุดท้ายหากไม่มีจ่ายงวดรถ ก็จะต้องให้เขายึดไป วันนี้ตนประกาศขายหมด ทั้งที่บ้าน ที่ไร่ เพราะเหนื่อยกับการอพยพ อพยพไปแล้วก็กลับมา 4 รอบแล้ว อพยพไป ก็ต้องไปเช่าบ้านเขาอยู่ ตอนนี้ก็เงินจะหมดแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ ครก สาก เสื้อผ้า ทั้งของตน ของหลาน เก็บไว้บนรถยนต์ พร้อมไปได้ทันที หากมีเสียงปืนใหญ่

ส่วน นายจันทร์ อายุ 63 ปี บอกว่า อพยพออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2568 เพราะมีข่าวว่าเขมรจะยิงกับไทย แต่วันนี้ยังไม่ยิงกัน ก็เลยอพยพขนข้าวของเต็มรถยนต์กลับมาบ้านอีกรอบ ที่ผ่านมาอพยพไปๆ มาๆ เช่นนี้หลายรอบแล้ว วันๆ ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว เพื่อความปลอดภัยของตนและครอบครัว ก็ต้องอพยพไป และหากเหตุการณ์สงบ ก็เดินทางกลับมาเช่นนี้ เด็กก็ไม่ต้องไปโรงเรียน พ่อแม่ไม่ต้องไปทำงานกันแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง