ไม่ใช่ฝีมือต่างด้าวก่อเหตุทำร้ายข่มขืนยายวัย 84 ปี ตำรวจเช็กวงจรปิดคุมตัวชายไทยวัย 53 ปีไปเค้นสอบ

ไม่ใช่ฝีมือต่างด้าวก่อเหตุทำร้ายข่มขืนยายวัย 84 ปี ตำรวจเช็กวงจรปิดคุมตัวชายไทยวัย 53 ปีไปเค้นสอบ

View icon 1.1K
วันที่ 30 ก.ย. 2568 | 11.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุว่ามีหญิงชราอายุ 84 ปี ถูกทำร้ายร่างกายและถูกข่มขืน คาบ้านพัก พื้นที่หมู่ 2 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา โดยกู้ภัยได้พาตัวคุณยายผู้เสียหายมีบาดแผลทั่วร่างกายส่งโรงพยาบาล ซึ่งคุณยายบอกว่าถูกทำร้ายร่างกายจากชายปริศนาพูดจาสำเนียงคล้ายคนเขมร บุกเข้ามาทำร้ายข่มขืนแต่ไม่สำเร็จความใคร่ ก่อนจะหลบหนีไปช่วงกลางดึก

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (30 ก.ย. 68) ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี นำโดย พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี พร้อม พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สว.สส.สภ.บางพลี และกำลังฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางพลี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุที่บ้านพักของคุณยายอีกครั้ง พร้อมไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าจะพบตัวชายต้องสงสัย โดยตำรวจได้คุมตัวชายต้องสงสัยคนหนึ่ง เป็นชายไทยอายุประมาณ 53 ปี ซึ่งบ้านพักไม่ไกลจากบ้านของคุณยาย และเป็นบุคคลเดียวที่พบตามกล้องวงจรปิด เพราะตำรวจเห็นว่าชายต้องสงสัยคนนี้เดินถอดเสื้อออกมาจากทางบ้านของคุณยายช่วงตี 2 กว่า ของวันเกิดเหตุ

จากข้อมูลเชิงลึกของแหล่งข่าวระบุว่า จากการสอบปากคำชายต้องสงสัยเป็นคนไทย ไม่ใช่ต่างด้าวแต่อย่างใด โดยผู้ต้องสงสัยรายนี้มีพฤติกรรมที่เข้าออกบ้านยายเป็นประจำ และเป็นเพียงคนเดียวที่ปรากฏตามก้ลองวงจรปิดซึ่งเข้าบ้านคุณยายช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินถอดเสื้อออกมากลับบ้านพักช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. และจากการสอบปากคำเจ้าตัวยังให้การขัดแย้งกับหลักฐานของทางเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด แต่พบตามตัวมีรอยขีดข่วน ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่ายุงกัดจึงเกา

อย่างไรก็ตาม มีรายงานบางช่วงที่ตำรวจสอบปากคำ เจ้าตัวถึงกับร้องไห้ และอยากไปขอโทษคุณยาย แต่อ้างว่าไม่ได้ลงมือทำ ขณะที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยขณะนี้ได้เก็บตัวอย่าง DNA ที่ตัวผู้ต้องสงสัยและที่ตัวของคุณยายไปเปรียบเทียบแล้ว ส่วนประเด็นที่คุณยายอ้างว่าเป็นชายต่างด้าวที่มาก่อเหตุพูดไทยสำเนียงเขมรนั้น เชื่อว่าคุณยายอาจะเกิดความหวาดกลัว จึงยังไม่กล้าระบุตัวตนของชายคนใกล้ชิดคนนี้ ขณะนี้ตำรวจยังคงสอบปากคำและเร่งรัดขอพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อมัดตัวผู้ต้องสงสัยให้แน่ชัด ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป