วันนี้ (1 ต.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้เกิดเรื่องราวน่าเศร้าใจ เมื่อตำรวจได้สืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีชิงทรัพย์แม่ค้าขายเนื้อสด อายุ 70 ปี ต่อมาผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุได้ผูกคอเสียชีวิต แต่เรื่องไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่สามารถสาวไปถึงลูกชายของผู้เสียหาย โดยพบว่าเป็นผู้ชี้เป้าให้ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นเพื่อนร่วมวงเหล้าให้ไปจี้ชิงทรัพย์แม่ของตัวเอง
สำหรับคดีดังกล่าว เริ่มจากวันที่ 11 ก.ย. 68 เวลาประมาณ 04.00 น. เกิดคดีชิงทรัพย์ นางสุขแก้ว อายุ 70 ปี ขี่รถจักรยานลากล้อเข็นไปตลาด หลังเกิดเหตุผู้เสียหายให้การกับตำรวจว่า คนร้ายเป็นชาย 1 คน ขี่รถจักรยานเข้าประกบด้านข้าง แล้วใช้เท้าถีบรถตนจนล้มลง จากนั้นคนร้ายได้ทำร้ายและข่มขู่เอาเงิน ตอนแรกเอาเงินให้คนร้ายไปประมาณ 1,700 บาท จากเงินทั้งหมดประมาณ 17,600 บาท ซึ่งเป็นเงินที่จะนำไปซื้อเนื้อมาขาย แต่คนร้ายไม่ยอม ตรงเข้ากระชากผมและเอาศีรษะตนโขกกับผิวถนนไป 5-6 ครั้ง ตนร้องขอความช่วยเหลือแล้วแกล้งทำเป็นสลบ คนร้ายจึงฉกเอาเงินทั้งหมดแล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ต่อมา พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน และ พ.ต.ท.ศุภกรณ์ชัย เดชายิ้มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส. สภ.แม่จัน อำนวยการให้ พ.ต.ต.ผดุง ท้ายเรือคำ รรท.สว.สส. สภ.แม่จัน และชุดสืบสวน สภ.แม่จัน ระดมกันออกไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุคือ นายสุรชัย อายุ 47 ปี กระทั่งวันที่ 18 ก.ย. 68 ตำรวจเชิญตัวมาซักถามและให้ปากคำ พร้อมกับจัดเก็บ DNA เพื่อส่งตรวจพิสูจน์ ก่อนจะปล่อยตัวให้กลับบ้าน
จากนั้นวันที่ 19 ก.ย. 68 นายสุรชัย ได้ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตนเองเสียชีวิต ในห้องนอนของตนเอง ภายในบ้าน โดยญาติให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ช่วงเย็นของวันที่ 18 ก.ย. 68 นายสุรชัยได้ดื่มสุรากับ นายวิชัย อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียหาย ที่บ้านของ นายสุรชัย ก่อนจะแยกย้ายกันไป กระทั่งเช้าของวันที่ 19 ก.ย. 68 นายสุรชัยได้โทรศัพท์ไปหาใครไม่ทราบ พูดคุยในลักษณะมีปากเสียงกัน ต่อมาญาติได้ไปเรียกให้ นายสุรชัย มากินข้าว แต่พบว่านายสุรชัยได้ผูกคอตัวเองเสียชีวิตในห้องนอนแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจทราบว่า นายสุรชัย กับ นายวิชัย เป็นคู่หูคอเดียวกัน ชอบตั้งวงดื่มเหล้าด้วยกันเป็นประจำ จึงเค้นสอบจน นายวิชัย รับสารภาพว่า เป็นผู้บอกนาย สุรชัย ว่าแม่ของตนที่ไปขายเนื้อในตลาดพกเงินออกจากบ้านทุกเช้าเพื่อไปซื้อเนื้อมาขายในตลาด ที่สำคำญก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 วัน นายวิชัย ได้บอกกับผู้เป็นแม่ว่า ไม่ต้องใส่สร้อยคอทองคำออกจากบ้านเวลาไปขายของตลาดตอนเช้า ให้ถอดเก็บไว้ที่บ้าน เนื่องจากราคาทองแพง หลังจากประมวลหลักฐานพยานต่าง ๆ แล้ว ได้นำมาซึ่งการจับกุม นายวิชัย เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 68 เพราะเชื่อว่ามีพฤติกรรมเป็นผู้ชี้เป้าให้ นายสุรชัย ไปชิงทรัพย์จากแม่ของตัวเอง
หลังการจับกุม นายวิชัย ทางตำรวจได้อธิบายหลักฐานพยานให้ผู้เป็นแม่ และเป็นผู้เสียหายทราบ ทำให้ผู้เสียหายอึ้ง เพราะไม่อยากเชื่อว่าลูกชายของตนจะทำกับแม่เช่นนั้น โดยบอกว่า ตนมารู้ภายหลังว่าคนร้ายได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปสอบปากคำ และแขวนคอเสียชีวิตไปแล้วนั้นเป็นเพื่อนสนิทกับลูกชายของตน ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจหลักฐานแล้ว ก็ทราบว่าแท้ที่จริงลูกชายตนเป็นคนชี้เป้าให้กับคนร้ายให้ก่อเหตุ จึงทำให้ตนเสียใจอย่างมาก ได้สอบถามลูกชายว่าเหตุใดจึงได้ทำเช่นนั้น ซึ่งเขาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่เพราะดื่มเหล้าด้วยกันจนมึนเมา ทำให้ไม่รู้สึกตัวว่าไปชี้เป้าให้คนร้ายก่อเหตุ
ทั้งนี้ แม้ลูกจะทำกับแม่ แต่ด้วยความเป็นแม่ย่อมอภัยให้ลูกได้ โดยผู้เสียหาย บอกว่า หากพ้นจากความผิดแล้ว ก็อยากให้ลูกทำตัวเป็นคนดี ไม่ต้องเป็นแบบคนเก่า เลิกเหล้า ลูกแม่ 2 คน แม่รักทุกคน ที่ทำไปอาจจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เป็นเพราะเมาเหล้า ต่อไปก็อยากให้เป็นคนดี