ร่าง พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุข ผ่านชั้น กมธ. พร้อมเข้าวาระ 3 เพื่อให้มีสถานะทางกฎหมายที่มั่นคง มีหลักประกันด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ชัดเจน
วันนี้ (3 ต.ค.68) นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า หลังการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณา (ร่าง) พระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สบส. ขอแจ้งข่าวดีกับพี่น้อง อสม. ขณะนี้ คณะกรรมาธิการฯได้พิจารณาร่างกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว โดยได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายฯ ให้มีความสมบูรณ์ ครบถ้วนมากขึ้น และยังคงยึดหลักการความเป็น “จิตอาสา” ของประชาชนในการเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบการสาธารณสุขไทย เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชน ในนามอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.
ร่างกฎหมายฯ ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการฯ มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการยกระดับสถานะและสร้างหลักประกันที่มั่นคงแก่ อสม. พัฒนาขีดความสามารถควบคู่ไปกับการส่งเสริมความเข้มแข็งองค์กร อสม. ให้สามารถบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือการสร้างขวัญกำลังใจในการปฎิบัติงานและพัฒนาสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ ให้แก่ อสม. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและขีดความสามารถอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยจะเสนอร่างกฎหมายฯ แก่สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบใน “วาระที่ 3” ภายในเดือนตุลาคม 2568 ก่อนเสนอสมาชิกวุฒิสภาพิจารณาต่อในลำดับถัดไป
“เมื่อ พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. .... มีผลบังคับใช้ นอกจากประชาชนจะได้รับการดูแลสุขภาพในระดับชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ประเทศไทยจะมีระบบการสาธารณสุขที่มั่นคง สามารถรับมือกับภาวะวิกฤตด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน อสม.ก็จะมีสถานะทางกฎหมายที่มั่นคงมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ จากหลักประกันด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ชัดเจน ถือเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับระบบความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศ”
ในปีงบประมาณ 2569 กรม สบส. ได้วางแนวทางการยกระดับศักยภาพ อสม. ในระดับพื้นที่ ผ่านการเพิ่มทักษะในการปฏิบัติงานด้านสุขภาพ 4 ด้าน ได้แก่ การนวดไทยยืดเหยียดเฉพาะทาง 7 ด้าน การดูแลผู้สูงอายุ ผู้ช่วยสาธารณสุขในการดูแล ป้องกันโรค และผู้นำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยตั้งเป้ายกระดับ อสม. ให้ได้ 10,000 ราย ภายในเดือนมกราคม 2569