เกษตรกรชาว อ.สิเกา จ.ตรัง ทำนาข้าวสีชมพู แลนด์มาร์กแห่งใหม่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว

เกษตรกรชาว อ.สิเกา จ.ตรัง ทำนาข้าวสีชมพู แลนด์มาร์กแห่งใหม่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว

View icon 375
วันที่ 3 ต.ค. 2568 | 11.53 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (3 ต.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หลานย่ารีสอร์ทแอนด์คาเฟ่ หมู่ที่ 2 บ้านควนกุน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง นายสนอง อายุ 58 ปี ได้พลิกพื้นที่สวนยางพาราหันมาทำนาข้าวสีชมพูบนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ เริ่มจากการท่องยูทูบแล้วไปเจอภาพนาข้าวสีชมพูที่ ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง จึงติดต่อขอซื้อเมล็ดพันธุ์ในราคาขีดละ 3,000 บาท โดยซื้อมาเพียง 2-3 ขีดในปี 64 ก่อนจะเริ่มเพาะขยายพันธุ์เอง

จนได้ข้าวสีชมพูเต็มท้องทุ่งนา พร้อมทำร้านอาหารและรีสอร์ทควบคู่กันไปเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไกลได้แวะพักผ่อน รับประทานอาหาร จนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่และเป็นแห่งที่ 2 ใน จ.ตรัง ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางไปเที่ยวชมกันอย่างไม่ขาดสาย 
              
ซึ่งจากความสวยงามของนาข้าวสีชมพูที่โดดเด่น เป็นสง่า จึงทำให้มียอดจองซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวสีชมพูไปทดลองปลูกไม่ต่ำกว่า 80-90 กิโลกรัม ทำให้ต้องเข้าคิวจองยาวถึงปีหน้า  ซึ่งแต่ละรุ่นใช้เวลาปลูกประมาณ 120 วันหรือ 4 เดือนจึงเก็บเกี่ยวได้  โดยได้ผลผลิตไร่ละประมาณ 30-40 กก. เท่านั้น

แต่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีหากมีน้ำเพียงพอหรือหมั่นเติมน้ำในแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งข้าวสีชมพู เมื่อเริ่มปลูกจะให้สีชมพูอมม่วงไปจนเริ่มตั้งท้องหรือประมาณ 3 เดือน ก่อนที่ใบจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมม่วง เพราะต้องการโคโรฟิลในการสังเคราะห์แสง แต่รวงข้าวจะยังให้สีชมพูอมม่วง สวยงาม ส่วนเมล็ดข้างในมีสีม่วงเข้ม เนื้อในเป็นแป้งสีขาว มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รับประทานได้แต่ยังมีไม่พอขาย
             
ส่วนปุ๋ยใช้ปุ๋ยคอก สลับกับปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 15-15-15 เดือนละ 2 ครั้ง เมื่อข้าวเริ่มตั้งท้องใช้สูตรเร่งดอก 0-0-60  จะทำให้เมล็ดข้าวแตกรวงมาก ซึ่งปีนี้เกษตรกรปรับราคาขายจาก 2 ปีที่แล้วกิโลละ 15,000 บาทเหลือเพียงกิโลละ 3,500 บาท และขายเมล็ดละ 1 บาท สร้างรายได้เกือบ 1 ล้านบาทต่อปี 

โดยในท้องตลาดทั่วไปยังไม่มีเมล็ดพันธุ์สีชมพูขาย เพราะยังมีราคาแพง และยังไม่มีการขายเพื่อการบริโภค เนื่องจากยังมีราคาที่สูงมาก คนปลูกน้อย จึงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ที่ทำเงินได้อย่างมหาศาลต่อปี โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยว โรงแรมและรีสอร์ทต่าง ๆ มีการสั่งซื้อต้นกล้า เพื่อนำไปปลุกประดับตกแต่งอาคารสถานที่กันเป็นจำนวนมาก
             
ด้านนายสนอง เกษตรกรผู้ปลูกข้าวสีชมพูกล่าวว่า เมื่อก่อนพื้นที่ตรงนี้เป็นป่ายางต่อมาจึงปรับเปลี่ยนเป็นรีสอร์ทและเริ่มทำนาโดยคัดสายพันธุ์ข้าวสีชมพูมาปลูก ใช้เวลาประมาณ 4 เดือนหรือ 120 วัน จึงเก็บเกี่ยวได้ ผลตอบรับดีมาก ใส่ปุ๋ยตามสูตรเริ่มจากยูเรีย ตามด้วยสูตร 15 สูตรเสมอ พอตั้งท้องแล้วใส่สูตร 0-0-6-0 กับสูตรเร่งเมล็ดพันธุ์ได้
              
ส่วนรสชาติยอมรับว่ายังไม่เคยกินเพราะมีไม่พอขาย วันหนึ่งกำลังจะหุงกินสักครั้ง แต่มีลูกค้ามาจากจ.ระนองมาขอแบ่งปัน จึงให้ไปเลยยังไม่ได้กิน รอรอบใหม่ซึ่งกะว่าจะหุงกินสักครั้งในชีวิต ซึ่งเมื่อก่อนกิโลละเป็นหมื่น แต่ตอนนี้ตนขายกิโลละ 3,500 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง