เช้านี้ที่หมอชิต - "เบน สมิท" คนที่ถูกพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจเงินสีเทา มอบอำนาจให้ "ธนดล" ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ฟ้องเรียกค่าเสียหาย "รังสิมันต์ โรม" 100 ล้านบาท จากเรื่องการแฉพัวพันแก๊งคอลเซนเตอร์
นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ "ร้อยเอก ธรรมนัส" แต่วานนี้เขาอยู่ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ "เบน สมิธ" ซึ่ง นายธนดล บอกรู้จัก "เบน สมิธ" เพราะนายทักษิณ แนะนำให้รู้จักกัน ก็มีโพรเจกต์ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ และชักชวน "ร้อยเอก ธรรมนัส" ร่วมลงทุนด้วย จึงมีการแนะนำให้เขาจึงมาช่วยดูด้านกฎหมายได้ประมาณ 1 ปี
และจากข้อมูลนายธนดล เล่ายังทำให้รู้ว่า "เบน สมิธ" ทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์, หุ้น, เรือ และเครื่องบิน และยังรู้จักนักการเมืองอีกหลายคน แต่ไม่อนุญาตให้เปิดเผย
การที่ "รังสิมันต์ โรม" สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน นำข้อมูลมาเผยแพร่ ส่งผลเสียอย่างมาก เพราะ "เบน สมิธ" ถูกทางการสิงคโปร์ ตรวจสอบทันที ว่าทำธุรกิจถูกต้องหรือไม่ ซึ่งก็ไม่เจออะไร และส่งผลต่อภาพลักษณ์ จึงเป็นเหตุให้เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
สำหรับเรื่องของ "ร้อยเอก ธรรมนัส" ที่มีข่าวว่าจะไปฟ้องที่จังหวัดนราธิวาส และพะเยา เหตุผลเพราะมีผู้ช่วย สส. อยู่ที่นั่น แต่ยอมรับคดีที่ถูกพาดพิงมีน้ำหนักน้อย ต้องขอดูอีกทีว่าจะดำเนินการหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ นัดหมายประชุมกรรมาธิการ ยืนยันว่า "ร้อยเอก ธรรมนัส" จะไปเข้าร่วมประชุมตามคำเชิญ
ด้าน นายรังสิมันต์ ยืนยัน คนที่ กลต. ตรวจสอบ และนายเบน สมิธ เป็นบุคคลเดียวกัน จึงเป็นห่วงทั้งนายธนดล และ ร้อยเอกธรรมนัส อาจไม่ได้รู้จักคนที่คิดว่ารู้จักเพียงพอหรือไม่ แต่ก็มองการฟ้องร้องเป็นสิทธิ์ พร้อมตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ไล่ฟ้องอาจทำให้สะเทือนถึงรัฐบาล
สอบถามเพิ่มกับ บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ ว่ามีชื่อของ "เบน สมิธ" เกี่ยวข้องกับเส้นทางเทา หรือแก๊งคอลเซนเตอร์ บ้างหรือเปล่า จากการตรวจสอบเครือข่ายของ "ก๊กอาน" และแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ผ่านมา ยอมรับว่ายังไม่พบชื่อ "เบน สมิธ" เกี่ยวข้อง
ส่วนคดีที่ กลต. ฟ้องเรื่องซื้อขายหุ้น เข้าข่ายฟอกเงิน ก็ยืนยันไม่ได้ว่าใช่คนเดียวกันกับที่ นายธนดล นำหลักฐานมาแสดงหรือไม่
