ค้นพบ “เสาหินสลัก” สลักเป็นใบหน้ามนุษย์ เก่าแก่ราว 12,000 ปี ในตุรกี

ค้นพบ “เสาหินสลัก” สลักเป็นใบหน้ามนุษย์ เก่าแก่ราว 12,000 ปี ในตุรกี

View icon 96
วันที่ 7 ต.ค. 2568 | 17.20 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ขุดพบเสาหินรูปตัว T สลักเป็นใบหน้ามนุษย์ เก่าแก่ อายุราว 12,000 ปี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เผยให้เห็นมิติใหม่ของการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และศิลปะในสังคมยุคหินใหม่

วันนี้ (7 ต.ค. 68) สำนักข่าว “ซินหัว” รายงานว่า ขุดพบเสาหินรูปตัวที (T) ที่สลักใบหน้ามนุษย์ เป็นครั้งแรกระหว่างการขุดค้นล่าสุดที่แหล่งโบราณคดีคาราฮันเทเป ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี

โดยการค้นพบครั้งนี้อยู่ภายใต้โครงการ "สโตนฮิลส์ โปรเจ็กต์" (Stone Hills Project) ซึ่งเป็นโครงการโบราณคดีขนาดใหญ่ที่มุ่งศึกษาการเปลี่ยนผ่านของมนุษยชาติจากยุคของการเป็นกลุ่มชนเร่ร่อนหาของป่าสู่การตั้งถิ่นฐานถาวร และวิวัฒนาการของระบบความเชื่อเมื่อประมาณ 12,000 ปีก่อน โดยโครงการนี้ดำเนินการที่แหล่งโบราณคดียุคหินใหม่หลายแห่งในภูมิภาคอานาโตเลียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ โกเบคลี เทเป (Gobeklitepe) และ คาราฮันเทเป ของประเทศตุรกี

ทาง “เมห์เหม็ต นูริ เอร์ซอย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของตุรกี ระบุว่า โบราณวัตถุที่ค้นพบในคาราฮันเทเปช่วยไขมุมมองใหม่ของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยเป็นหลักฐานชิ้นแรกที่เผยว่ามนุษย์ยุคหินใหม่สลักภาพตนเองบนเสารูปตัว T

โดยใบหน้าที่สลักไว้บนส่วนบนของเสาหินดังกล่าวมีลักษณะสันจมูกคมชัด ดวงตาลึก และจมูกกว้างทรงเหลี่ยม ซึ่งคล้ายกับรูปปั้นมนุษย์อื่น ๆ ที่เคยถูกขุดพบก่อนหน้านี้ในคาราฮันเทเป ซึ่งการค้นพบนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงทักษะเชิงเทคนิคของชุมชนยุคหินใหม่ตอนต้น แต่ยังแสดงถึงความสามารถในการคิดเชิงนามธรรมและการสร้างภาพแทนตนเองของมนุษย์ยุคนั้นด้วย จึงถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับยุคหินใหม่

ที่ผ่านมา เสาหินรูปตัว T ที่พบใน “คาราฮันเทเป” และ “โกเบคลี เทเป” มักมีลวดลายแกะสลักเป็นแขนและมือ ซึ่งนักวิจัยตีความว่าเป็นสัญลักษณ์แทนมนุษย์ แต่การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พบ "ใบหน้ามนุษย์" สลักโดยตรงลงบนเสา ซึ่งเผยให้เห็นมิติใหม่ของการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์และศิลปะในสังคมยุคหินใหม่

นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมของตุรกี เสริมว่า การค้นพบนี้สนับสนุนแนวคิดที่ว่าเสาหินรูปตัว T มีบทบาทเชิงสัญลักษณ์มากกว่าการใช้งานด้านโครงสร้างหรือจุดประสงค์เพื่อพิธีกรรม โดยเป็นครั้งแรกที่เสาหินเหล่านี้สื่อถึงรูปลักษณ์มนุษย์อย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นก้าวสำคัญในวิวัฒนาการของภาพแทนมนุษย์และความเชื่อด้านจิตวิญญาณ