นายหัวชวน รับ MOU 43 เขียนขึ้นตอนที่ตนเป็นนายกฯ จริง แต่ยืนยัน ฝ่ายการเมืองไม่เกี่ยว โยน กต.-ทหาร พิจารณา ยังจำเป็นต้องมีหรือไม่ ไม่เห็นด้วยทำประชามติ เพราะเรื่องยาก หวั่นประชาชนไม่เข้าใจ ต้องเร่งชี้แจงประชาชน
7 ตุลาคม 2568 นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง MOU 2543 ซึ่งถูกจัดทำขึ้นในสมัยที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ที่ลงนามโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยสาระสำคัญ คือ ต้องการให้กัมพูชา ร่วมปักปันเขตแดนในพื้นที่ที่มีปัญหา โดยข้อตกลง ใดก็ตามที่ดำเนินการฝ่ายการเมืองจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นหน้าที่ของฝ่ายประจำ เช่นฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดูแล ดังนั้นกรณีดังกล่าวกระทรวงการต่างประเทศจะอธิบายได้ดีที่สุดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
นายชวน ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ได้ลงนามเพื่อประโยชน์ของใครเพียงคนใดคนหนึ่ง รวมทั้งกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นำ MOU 2543 ไปจดทะเบียนที่สหประชาชาติ ก็เพื่อไม่ให้กัมพูชานำไปใช้เป็นเหตุผลในการยื่นฟ้องต่อองค์กรระหว่างประเทศ และเพื่อเป็นการยืนยันว่าปัญหาระหว่างสองประเทศมีข้อตกลงนี้ร่วมกันอยู่ และการทำข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ทำให้ประเทศเสียเปรียบ แต่จะเป็นการทำให้ประเทศดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ สามารถพิจารณาได้ว่า หาก MOUฉบับดังกล่าว ไม่มีประโยชน์ก็สามารถดำเนินการแก้ไขได้ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คนปัจจุบัน ก็รับราชการอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ ในขณะนั้นด้วย เชื่อว่าสามารถชี้แจงได้ แต่ด้วยกระแสที่เกิดขึ้นในสังคมอาจทำให้ไม่กล้าออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง
ส่วนระยะเวลาที่ผ่านมานาน แต่MOUยังไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา ว่าข้อตกลงนี้ยังเป็นประโยชน์อยู่อีกหรือไม่ MOU 2543 ยังมีความจำเป็นที่จะใช้นำมาปักปันเขตแดนอีกหรือไม่
ส่วนที่รัฐบาลกำลังจะทำประชามติถามประชาชนว่าควรจะยกเลิกหรือไม่ นายชวน มองว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่า คนทั่วไปจะไม่เข้าใจเนื้อหาสาระที่แท้จริงของ MOU การทำประชามติส่วนใหญ่จะต้องเป็นเรื่องที่ประชาชนศึกษาอย่างท่องแท้ก่อน เช่นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น ดังนั้น เมื่อได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว หากตั้งใจจะทำจริงๆก็ต้องให้ความรู้กับประชาชน ว่าMOU ฉบับดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่เช่นนั้นประชาชนก็จะลงมติตามกระแสสังคมไม่ได้ลงมติจากความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่ ถูกต้อง
