คืบหน้าเด็ก 4 คน ดัดแปลงประทัดแล้วเกิดระเบิด เจ็บ 4 คน ล่าสุด น้อง 10 ขวบ ร่างกายยังไม่ตอบสนอง

คืบหน้าเด็ก 4 คน ดัดแปลงประทัดแล้วเกิดระเบิด เจ็บ 4 คน ล่าสุด น้อง 10 ขวบ ร่างกายยังไม่ตอบสนอง

View icon 313
วันที่ 9 ต.ค. 2568 | 12.07 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คืบหน้าเด็ก 4 คน ดัดแปลงประทัดแล้วเกิดระเบิด เจ็บ 4 คน ล่าสุด น้อง 10 ขวบ ร่างกายยังไม่ตอบสนอง ส่วนเด็กชายวัย 8 ขวบอีกคน ได้รับบาดเจ็บ บริเวณดวงตาด้านซ้า ต้องรอแพทย์วินิจฉัยอาการอีกครั้งว่าตาที่ได้รับบาดเจ็บจะมองเห็นหรือไม่ และเด็กอีก 2 คน อาารดีขึ้นตามลำดับ

9 ตุลาคม 2568 จากกรณีเด็ก 4 คน แอบไปซื้อประทัด แล้วแกะนำดินระเบิดไปใส่โอ่งพลุไฟที่จุดแล้ว จากนั้นจุดไฟจนทำโอ่งเกิดระเบิด หลังเกิดเหตุเด็กได้รับบาดเจ็บ 3 คน ขณะที่ เด็กชายวัย 10 ขวบ อาการหนักสุด เหตุการณ์เกิดขึ้นที่  ต.นาจาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผจจาก พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ถึงความคืบหน้าเหตุที่เกิดขึ้นว่า หลังเกิดเหตุได้เยี่ยมอาการเด็กที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และลงพื้นที่ไปยัง สภ.สีชมพู โดย พ.ต.อ.รัฐพล เหลาพรหม ผกก.สภ.สีชมพู รายงานเหตุการที่เกิดขึ้นว่า วานนี้ (8 ตุลาคม 2568) เวลาประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุประทัดระเบิดบริเวณวัดธแห่งหนึ่งที่ บ้านท่าช้าง ม.9 ต.นาจาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น มีผู้บาดเจ็บโดนประทัดระเบิด จำนวน 4 ราย

ร.ต.ท.จตุพงษ์ ทวงลี รอง สว.(สอบสวน) สภ.สีชมพู ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุกรณีได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนว่ามีเหตุประทัดระเบิดมีเด็กได้รับบาดเจ็บ พบประทัดชนิดลูกฟุตบอลลักษณะถูกแกะเอาดินปืนภายในออกวางกองอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ และพบประทัดพลุไฟโอ่งขนาดเล็กวางอยู่ในที่เกิดเหตุลักษณะแตกออก จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เด็กชายทั้ง 4 รายได้เก็บประทัดชนิดลูกบอลที่หล่นตามพื้นในบริเวณวัดที่ยังไม่แตกมาแกะเอาดินปืนมาผสมรวมกันใส่ในประทัดพลุไฟโอ่งขนาดเล็กที่จุดแล้ว และได้จุดไฟ จึงทำให้ระเบิดส่งผลให้เด็กทั้ง 4 ราย ได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะถูกพลเมืองดีนำส่ง รพ.ชุมแพ เพื่อทำการรักษา และได้ย้าย 2 รายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส มารับการรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น และโรงพยาบาลศรีนตรินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ จากนายอำเภอสีชมพู ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการอนุญาตให้มีการจำหน่ายวัตถุอันตราย พลุไฟ มีร้านที่ได้รับอนุญาตประมาณ 6-7 ร้าน และทางอำเภอได้กำชับผู้นำชุมชน ให้ตรวจสอบร้านค้าในพื้นที่ของตนเองห้ามมีการจำหน่ายพลุประทัด และวัตถุอันตราย หากจะจำหน่ายต้องมาขออนุญาตจากทางอำเภอ และหากตรวจพบอีกในภายหลังจะดำเนินการการกฏหมาย

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตร.ทุกพื้นที่ ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตรวจตราร้านค้าที่อาจมีการลักลอบจำหน่ายพลุ ดอกไม้ไฟและวัตถุอันตราย ในช่วงเทศกาลออกพรรษา และเทศกาลลอยกระทงที่จะมาถึง อย่างเข้มงวด ทั้งนี้แม้แต่ร้านที่ได้รับอนุญาตในการจำหน่ายวัตถุอันตรายดังกล่าวเองก็มีช่วงเวลาอนุญาต คืออนุญาตให้จำหน่ายในเวลา 06.00 -18.00 น.เท่านั้น หากมีการตรวจพบว่ามีการจำกหน่ายนอกเวลาที่กำหนด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะจับกุม ดำเนินคดีตามกฏหมาย จึงฝากถึงร้านค้าที่อาจจะแอบนำวัตถุอันตรายต่างๆมาจำหน่ายช่วงเทศกาลนี้ ห้ามนำมาจำหน่าย เพราะมีความผิด รวมถึงร้านที่ได้รัอนุญาต ก็ต้องจำหน่ายได้เฉพาะเวลาที่กำหนด หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบ ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายเช่นกัน

ด้านนางสาวสุดารัตน์ อายุ 36 ปี น้าสาวของเด็กชายเข้ม ได้โพสเฟสบุ๊ค “สุดารัตน์ ประทุมแมน”  แจ้งความคืบนหน้าอาการของน้องเข้ม ช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า  “ ทุกคนที่ติดตามและเป็นห่วงน้องเข้ม ณ ตอนนี้น้องยังไม่ฟื้น ยังไม่ได้สติ ร่างกายยังไม่ตอบสนอง หมอบอกน้องจะค่อยๆฟื้นตัว และจะต้องเฝ้าระวังโรคแทรกซ่อนร่างกายน้องเสี่ยงต่อการแทรกซ้อน  #ขอบพระคุณทุกคนที่เป็นห่วงและค่อยส่งกำลังใจมาให้ครอบครัวของเรา ..

ขณะที่อาการของเด็กอีก 3 คนที่ได้รับบาดเจ็บ และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่นนั้น ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา แพทย์ได้ย้าย น้องโน๊ต อายุ 8 ขวบ เพื่อนน้องเข้ม ได้รับบาดเจ็บ บริเวณดวงตาด้านซ้าย ใต้ตามีแผลเปิดขนาดใหญ่ และบริเวณเหนือใบหูข้างซ้ายฉีก ต้องรอแพทย์วินิจฉัยอาการอีกครั้งว่าตาที่ได้รับบาดเจ็บจะมองเห็นหรือไม่ มารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น   ,ส่วน อีก 2 คนยังคงรับการรักษาที่โรงพยาบาลชุมแพ โดยน้องเชล อายุ 8 ขวบ ลูกพี่ลูกน้องของน้องเข้ม ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายทั้งที่บริเวณใบหน้า ,หน้าอก ,แขน ขา  และคนสุดท้ายน้องไข่ตุ๋น อายุ 7 ขวบ น้องชายเข้ม ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ให้รอดูอาการ หากไม่ได้รับบาดเจ็บมากอาจอนุญาตให้กลับบ้านได้

พร้อมฝากเตือนผู้ปกครองที่มีหลานวัยกำลังอยากรู้อยากลอง เพราะทางหลานตอนนี้ ยาย ป้า แม่ พี่น้อง เป็นลมแล้วลมอีก จุกไปหมด ตันหัวใจไปหมดทุกคน อย่าปลอยอย่าทิ้ง ให้ดูแลกันดีๆ บทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ทั้งเด็กทั้งผูใหญ่ เด็กเล็กวัยนี้บอกไปเขาก็ไม่เชื่อไม่ฟังยิ่งถ้าอยู่กันครบกลุ่มเพื่อนยิ่งหนัก นี่ก็ถือว่าเป็นโชคดี ที่ไม่ได้พา น้องโชกุน ลูกชายตนเอง กลับไปไว้ที่บ้านยาย ไม่อย่านั้น ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ในกลุ่ม ต้องมีน้องโชกุนด้วยแน่นอน เพราะเขาเล่นด้วยกันตลอดเวลาที่กลับบ้าน