ราชทัณฑ์ เล็งให้ ทักษิณ ช่วยงานด้านการศึกษา-สอนหนังสือ แต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ

ราชทัณฑ์ เล็งให้ ทักษิณ ช่วยงานด้านการศึกษา-สอนหนังสือ แต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ

View icon 623
วันที่ 10 ต.ค. 2568 | 11.54 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เบรกลอกท่อ อธิบดีกรมคุก เล็งให้ ทักษิณ ช่วยงานด้านการศึกษา-สอนภาษาอังกฤษ แต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ส่วนพักโทษขึ้นอยู่กับเงื่อนไข หากเข้าเกณฑ์ ยื่นขอได้

วันนี้ (10 ต.ค.68) พ.ต.ท. ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากรมราชทัณฑ์ ครบรอบ 110 ปี โดยมอบนโยบายเน้นย้ำภารกิจควบคุมแก้ไขพฤตินิสัยผู้ต้องขัง น้อมนำโครงการพระราชดำริมาใช้ เพื่อเสริมสร้างอาชีพให้ผู้ต้องขังมีงานทำ เมื่อออกจากเรือนจำไปแล้วจะได้อยู่ในสังคมได้ ไม่กลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคดีความผิดของผู้ต้องขังที่พบมากที่สุดยังเป็นคดียาเสพติด และสถิติการกระทำความผิดซ้ำของผู้ต้องขังไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กรมราชทัณฑ์ต้องแก้ไข

ผู้สื่อข่าวถามถึงการให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกไปบำเพ็ญประโยชน์ช่วยคุมการลอกท่อ หรือฝึกอบรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า นายทักษิณเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ การจะให้ไปทำงานใดต้องคำนึงถึงสุขภาพของผู้ต้องขังด้วย ส่วนตัวจึงอยากให้นายทักษิณไปช่วยเหลือด้านการศึกษา เช่น เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ให้ผู้ต้องขังในเรือนจำมากกว่า แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเริ่มเมื่อใด เพราะจะต้องเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์

เมื่อถามถึงการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณนั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวเพียงว่า เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนกรณีการขอพักโทษนั้น มีรายงานว่าตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ผู้ต้องขังทั่วไปจะต้องรับโทษมาไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 แต่หากเป็นผู้ต้องขังอายุเกิน 70 ปีขึ้นไป จะต้องรับโทษมาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือไม่น้อยกว่า 6 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อคำนวนโทษออกมาแล้วเงื่อนไขใดมีโทษมากกว่ากัน โดยให้ยึดตามโทษที่มากกว่า ผู้เข้าหลักเกณฑ์จึงจะสามารถยื่นขอรับการพักโทษได้ จากนั้นกรมราชทัณฑ์ก็จะนำเรื่องเข้าคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเดือนละ 1 ครั้ง โดยหลักเกณฑ์นี้เป็นระเบียบที่ใช้กับผู้ต้องขังทุกคน

ทั้งนี้ กรณีของนายทักษิณกรมราชทัณฑ์จะเน้นดูแลใน 2 เรื่อง คือ การดูแลสุขภาพ ยารักษาโรค และประวัติความเจ็บป่วย ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องความปลอดภัย และการป้องกันความขัดแย้งทางการเมืองภายในเรือนจำ เนื่องจากภายในเรือนจำมีผู้ต้องขังที่มีความเห็นทางการเมืองหลากหลาย จึงต้องมีการแยกแดนเพื่อลดการเผชิญหน้าของผู้ต้องขังแต่ละกลุ่ม ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แทรกซ้อนในเรือนจำ ขณะที่ประเด็นการให้ไปบำเพ็ญประโยชน์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ต้องขัง