ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กัมพูชาพาคณะ IOT ลงพื้นที่ชายแดนฝั่งตรงข้ามบ้าน "หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว" ในวันครบกำหนดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาย้ายออก
กัมพูชานำคณะ IOT ลงพื้นที่ชายแดน
พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (10 ต.ค.) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา พร้อมกับคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ได้ปฏิบัติภารกิจภาคสนาม ณ หมู่บ้านจกเจย และหมู่บ้านเปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อสังเกตการณ์ ตรวจสอบ และรายงานสถานการณ์ชายแดนหลังการหยุดยิงมีผลบังคับใช้ ซึ่งคณะ IOT จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหมู่บ้านดังกล่าวเป็นประจำตลอดทั้งสัปดาห์
กัมพูชาขอฝ่ายไทย ระงับแผนเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ด้านกองพลน้อยที่ 51 ของกองทัพกัมพูชา ออกแถลงการณ์ตอบโต้กองกำลังบูรพา โดยระบุว่า ขอให้ฝ่ายไทยยุติแผนปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่หมู่บ้านจกเจย (กัมพูชา) ตรงข้ามกับบ้านหนองจาน (ไทย) และพื้นที่หมู่บ้านเปรยจัน (กัมพูชา) ตรงข้ามกับบ้านหนองหญ้าแก้ว (ไทย) ซึ่งฝ่ายกัมพูชาชี้ว่าปฏิบัติการดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ที่มาเลเซีย
นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้อ้างถึงข้อ 6 ในรายงานการประชุม GBC (สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1) ที่ระบุว่า ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งสองฝ่ายจะต้องจัดตั้งคณะทำงานประสานงานร่วม หรือ JCTF (Joint Coordinating Task Force) ซึ่งคณะทำงานกลุ่มนี้ได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยคณะทำงาน JCTF จะต้องหารือร่วมกันเพื่อตกลงพื้นที่สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ดังนั้น กองพลน้อยทหารราบที่ 51 จึงขอให้กองกำลังบูรพา ระงับแผนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และรอการตัดสินใจจากผู้มีอำนาจสูงกว่า รวมทั้งรอการดำเนินการตามขั้นตอนของคณะทำงาน JCTF
กัมพูชากล่าวหา “ผู้นำไทย” บิดเบือนความจริง
ขณะเดียวกัน สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา แชร์แถลงการณ์ของโฆษกรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหากล่าวหาว่า "ผู้นำไทยบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับปัญหาชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการกล่าวหากัมพูชาว่าเป็นฝ่ายยิงก่อน ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง รุกล้ำดินแดนไทย และคุกคามความมั่นคงของชาติ พร้อมทั้งแสดงตนเป็นเหยื่อของการรุกล้ำของกัมพูชา แม้ว่ากัมพูชาจะเป็นเหยื่อตัวจริงก็ตาม"