ผู้แสวงบุญกว่า 40 คน เข้าแจ้งความทั้งน้ำตาหลังถูกลอยแพ ความเสียหายกว่า 9 ล้านบาท

ผู้แสวงบุญกว่า 40 คน เข้าแจ้งความทั้งน้ำตาหลังถูกลอยแพ ความเสียหายกว่า 9 ล้านบาท

View icon 285
วันที่ 14 ต.ค. 2568 | 16.16 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผู้แสวงบุญกว่า 40 คน เข้าแจ้งความทั้งน้ำตาหลังถูกลอยแพ ความเสียหายกว่า 9 ล้านบาท

จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้แสวงบุญอุมเราะห์กว่า 100 คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เตรียมออกเดินทางจากสนามบินหาดใหญ่เพื่อประกอบพิธีอุมเราะห์ ที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาราเบีย แต่กลับไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากถูกบริษัทลอยแพ ทำให้ผู้ที่เดินทางได้รับความเสียหาย ประกอบกับ สร้างความกระทบเทือนด้านจิตใจเป็นอย่างมาก ที่ไม่สามารถเดินทางประกอบพิธีอุมเราะห์ในครั้งนี้ได้ เพราะการประกอบพิธีอุมเราะห์ ถือเป็นการประกอบพิธีฮัจย์เล็ก แม้จะไม่สำคัญเท่าการประกอบพิธีฮัจย์ แต่ก็ก็มีความสำคัญอย่างมากกับพี่น้องมุสลิมทั่วโลก ที่มีทุนทรัพย์น้อย และอยากไปประกอบพิธีอุมเราะห์สักครั้งในชีวิต

ล่าสุดในวันนี้ ทางผู้เสียหายได้รวมตัวกันกว่า 40 คน ได้เดินทางมายังที่สถานีตำรวจภูธรเมือปัตตานี เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับบริษัทดังกล่าว ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อดำเนินคดีกับบริษัท โดยมีทางด้าน พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมด้วย พ.ต.อ. เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี อำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งเก็บรวมรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ของผู้เสียหายเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับบริษัทฯ ต่อไป โดยการเข้าแจ้งความในครั้งนี้ผู้เสียหายต่างเข้ากอดร้องไห้ เพราะบางรายนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางประกอบพิธีอุมเราะห์

จากการสอบถามผู้เสียหายทราบว่า การเดินทางทำอุมเราะห์ในครั้งนี้ ทางบริษัทได้เก็บเงินสำหรับผู้เดินทางรายละ 79,000 บาท ซึ่งผู้ที่ร่วมเดินทางกว่า 100 ราย ก็ได้ชำระแล้วครบจำนวน แต่เมื่อถึงก่อนวันเดินทางเพียง 1 วัน ก็คือวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ขอเรียกเพิ่มจากผู้แสวงบุญเพิ่มอีกรายละ 15,000 บาท รวมเป็นค่าเดินทางทั้งสิ้น 94,000 บาทต่อราย ซึ่งถือว่าเป็นค่าเดินทางที่สูงมาก ทำให้บางรายก็ไม่ได้โอนตามที่ขอ เพราะถือว่าเป็นการผิดข้อตกลง ส่วนบางรายไม่อยากมีปัญหาก็ได้โอนไปให้ตามที่บริษัทขอ แต่พอถึงวันเดินทางคือวันที่ 13 ต.ค.68 ทางผู้แสวงบุญก็ได้เดินทางไปยังสนามบินหาดใหญ่ เพื่อเดินทาง แต่ปรากฏว่า ไม่มีตัวแทนของบริษัทมาประสานงานแต่อย่างใด ทำให้ผู้แสวงบุญกว่า 100 คน ซึ่งมีทั้งเด็ก คนแก่  ไม่สามารถเดินทางได้เนื่องจากไม่มีตั๋วเครื่องบินแต่อย่างใด ทำให้ผู้แสวงบุญต่างเสียใจและบางรายถึงกับร้องไห้ที่ไม่สามารถเดินทางได้ในครั้งนี้ ได้ ส่วนความเสียหายในครั้งนี้คาดว่ากว่า 9 ล้านบาท 

ผู้เสียหายกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองรู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากตัวเองมีความตั้งใจที่จะเดินทางไปในครั้งนี้ และได้โอนเงินให้กับบริษัทครบเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่กลับมาบอกก่อนวันไปว่าวีซ่าไม่ออก ไม่มีวีซ่า ขอเงินเพิ่มอีกคนละ 15,000 บาท แต่ก็โอนให้  แต่พอไปถึงสนามบิน วีซ่าไม่ออก ทำไมไม่บอกแต่แรกว่ามีปัญหา ปล่อยให้มารอที่สนามบิน เสียใจมาก และตนเองก็รีบมาแจ้งความทันทีเพื่อไม่ให้ทำแบบนี้อีก อยากให้ออกมารับผิดชอบ เพราะทำร้ายความตั้งใจให้กับผู้ที่แสวงบุญ

ผู้เสียหายอีกคนเล่าว่า  ก่อนเดินทางทาแซะ (ผู้นำการดินทาง) ได้ทักในไลน์กลุ่มที่มีอยู่ 100 กว่า คนว่าขอเพิ่มรายละ 15,000 บาท เพื่อนำไปจองตั๋วภายในให้กับทุกคน ก็เลยงงว่าทำไมมาเพิ่งจอง ทุกคนก็เอะใจว่าผิดปกติ ซึ่งกรุ๊ปของตนไม่ได้โอนให้  เพื่อรอดูความเคลื่อนไหวแต่ก็มีบางส่วนที่โอนให้ แต่ทุกคนในกรุ๊ปประมาณ 14 คน ก็ไม่ได้ไป ทั้ง 100 กว่าคนไม่ได้ไป บางรายได้ตั๋วเครื่องบินไปซาอุ แต่ไม่มีตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพ ตนรู้สึกแปลกเริ่มไม่มั่นใจจึงไม่ได้โอนเงินไปให้ และก็มั่นใจว่าไม่ได้บินแน่ ก็เพราะเห็นคนที่เดินทางก่อนในช่วงเช้าไม่ได้บิน ทำให้มั่นใจว่าครั้งนี้มีปัญหาแน่ๆ ตนก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะตั้งใจมากที่จะพาพ่อกับแม่ไปด้วย และบริษัทนี้เราก็เคยไปมาแล้ว และรอบนี้เป็นรอบที่ 3 ก็เกิดความไว้ใจ และมั่นใจในการบริการพอเกิดเรื่องแบบนี้ก็ตกใจเหมือนกัน จึงอยากให้บริษัทคืนเงินเพราะไม่ต้องการไปกับบริษัทนี้อีกแล้ว เพื่อจะใช้เป็นการเดินทางต่อในปีหน้า

ทางด้านบริษัทดังกล่าว หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ออกมาแถลงชี้แจ้งว่า ทางบริษัทได้กล่าวขอโทษที่ทำให้ผู้แสวงบุญไม่สามารถเดินทางได้ตามแผนที่กำหนดไว้ ทางบริษัทขอรับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมด ที่ทุกท่านได้ชำระไว้กับบริษัท และทางบริษัทจะดำเนินการคืนและชดเชยให้ครบถ้วน โดยจะทยอยจ่ายชำระคืนไม่เกิน 5 เดือนนับจากวันประกาศฉบับนี้ ลงวันที่ 13 ต.ค.2568

ข่าวที่เกี่ยวข้อง