ไอซ์-รัชนก ลั่น ท้าเหยียบหน้า หากบำนาญ สูตร Care ผ่าน ใครได้เงินน้อยลง โวย ไอโอถล่มขวาง ยอดประชาพิจารณ์พุ่งชม.ละ 900 คน
วันนี้ (14 ต.ค.68) นายสหัสวัต คุ้มคง และน.ส.รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน พร้อมด้วยตัวแทนทีมประกันสังคมก้าวหน้า แถลงถึงสูตรประชาพิจารณ์ประกันสังคมหรือสูตร Care (Career Average Revalued Earnings) ซึ่งถูกบอทโจมตีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี คณะกรรมการประกันสังคมสัดส่วนผู้ประกันตน เผยว่า วันนี้เป็นวันที่ตนขอแถลงให้ประชาชนและผู้ประกันตน 15 ล้านคนในมาตรา 33 และ 39 ได้ทราบความคืบหน้ากระบวนการทำประชาพิจารณ์สูตรบำนาญสูตรใหม่ หรือสูตรแคร์ สูตรค่าเฉลี่ยพร้อมการปรับอัตราค่าเงิน ซึ่งได้ผ่านการศึกษาโดยกรรมการประกันสังคมตั้งแต่ปี 2563 และผ่านมติบอร์ดในหลักการตั้งแต่เดือน มี.ค.68 ระยะเวลาที่ถูกยื้อยาวนานจนกระทั่งมีกระบวนการการทำประชาพิจารณ์ในเดือนนี้ โดยสูตรบำนาญสูตรนี้จะทำให้ผู้ประกันตน 570,000 คนจาก 800,000 คนได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นทันทีเฉลี่ยประมาณ 10% และประชาชนที่จะเกษียณอีก 10 ปีข้างหน้า อีกกว่า 3,000,000 คนจะได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 7% ประชาชนที่ทำงานอยู่ในโรงงาน ประชาชนที่ถูกเลิกจ้าง ประชาชนที่ได้รับเงินบำนาญ หรือประชาชนที่เคยส่งเงินในมาตรา 39 จะสามารถมีชีวิตที่ลืมตาอ้าปากได้
สิ่งเหล่านี้คือการปรับสูตรคำนวณเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้คน แก้ไขข้อผิดพลาดที่เราได้ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2542 แต่ขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะที่สุ่มเสี่ยง และมีความอันตรายอย่างยิ่งในการพยายามโค่นล้มการทำประชาพิจารณ์สูตรบำนาญ care จากสถิติที่เราได้รับมาโดยปกติแล้วผู้ที่เห็นชอบกับสูตรบำนาญนี้ มีอัตราส่วนสูงกว่า 62% ต่อ 38% เป็นระยะเวลายาวนาน สถิติของคนที่เข้าไปทำประชาพิจารณ์ เฉลี่ยชั่วโมงละ 10 คน แต่ช่วงวันที่ 11 ต.ค. รอยต่อถึงวันที่ 12 ต.ค.ในระยะเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง มีคนเข้าไปทำประชาพิจารณ์ตกแล้วชั่วโมงหนึ่งมากกว่า 900 คน ทำให้กระบวนการทำประชาพิจารณ์ถูกตั้งคำถามอย่างมาก ต่อกระบวนการที่มีไอโอ มีการยิงบอทเข้าไป ซึ่งเป็นสถิติที่มีอัตราคนเข้าไปทำประชาพิจารณ์สูงกว่าปกติกว่า 900 เท่าในวันเดียวกัน
หลายคนมองว่าสิ่งหล่านี้เป็นผลงานของทีมประกันสังคมก้าวหน้า จึงต้องการพยายามกีดขวางไม่ให้สิ่งเหล่านี้สำเร็จ แต่ตนอยากบอกว่า ไม่ว่าเป็นกลุ่มการเมืองใด ไอโอสังกัดกลุ่มใด หรือความพยายามในการล้มประชาพิจารณ์อย่างไม่สุจริตใจของกลุ่มใด คือความอำมหิตอย่างถึงที่สุดในการกีดขวางบำนาญของคนหาเช้ากินค่ำกว่า 500,000 คนที่ปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ดี อยากให้สื่อมวลชนสะท้อนสัญญาณตัวนี้ ถึงกระบวนการการทำประชามติที่ผิดปกติของระบบไอโอ การยิงบอทและระบบที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ใช้เป็นระบบกลางในการทำประชาพิจารณ์ของกฎหมายของประเทศ
ด้าน น.ส.รักชนก ระบุว่า ประชาชนที่กำลังสงสัยว่าบำนาญสูตรนี้จะได้หรือเสียประโยชน์ ตนกล้าการันตีด้วยเกียรติเลยว่า ผู้ประกันตนที่กำลังได้รับบำนาญอยู่ปัจจุบันนี้จะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในมาตรา 39 หลายคนอาจมองว่า เป็นการหารเฉลี่ยผลประโยชน์จากมาตรา 33 ที่เคยได้รับหรือไม่ ซึ่งขอบอกเลยว่า ไม่ใช่ มีความพยายามที่จะบิดเบือนคำพูด หรือบิดเบือนความเข้าใจผิด เพื่อพยายามล้มสูตรนี้ ตนเข้าใจว่า สูตรนี้ถ้าผ่านหลายคนอาจมองว่า เป็นผลงานของทีมประกันสังคมก้าวหน้า แต่อยากจะถามว่าที่ผ่านมาไม่มีใครทำ และรอบนี้ประกันสังคมก้าวหน้าหยิบเรื่องนี้มาทำ เมื่อมีคนได้ประโยชน์ทำไมถึงจะต้องขวาง
ตนเห็นความพยายามมาตลอดตั้งแต่คนที่เคยลงรับสมัครบอร์ดประกันสังคม และไม่ได้รับการเลือกตั้งมาจนถึงกระบวนการไอโอที่โจมตีพรรคประชาชน จนตอนนี้เริ่มมาโจมตีงานของทีมประกันสังคมก้าวหน้าแล้ว จากสถิติการทำประชาพิจารณ์ ที่ความเห็นว่าเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยสูสีกันมาโดยตลอด แต่อยู่ดี ๆ ไม่รู้มาจากไหน 5,000 กว่าคอมเมนท์ภายในระยะเวลา 5 ชั่วโมง มีกระบวนการไอโอ พยายามที่จะนำเสนอความเห็นที่ไม่ได้มาจากคนจริง ๆ เข้ามาเพื่อล้มบำนาญสูตรแคร์
"อยากบอกหลายคนที่อาจจะไม่ได้ชอบหน้าพวกเรา เกลียดพวกเรา กลัวพวกเรา แต่ท่านก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำร้ายชีวิตผู้ประกันตนแบบนี้ ดิฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะทำไปทำไม ในเมื่อมันมีจริง ๆ คนที่ส่งมาตรา 33 ส่งมาตรา 39 ควรจะได้รับบำนาญ 4,000 บาท 5,000 บาท แต่ทุกวันนี้ได้ไม่ถึง 2,000 บาท มันอาจจะไม่ได้ดีขึ้นอย่างวิริสมาหลา แต่สามารถทำให้เขาหายใจหายคอเพิ่มเติมขึ้นมาได้ และใครที่สงสัยว่า ผู้ที่ได้รับบำนาญอยู่ปัจจุบันกำลังจะได้บำนาญน้อยลงจากสูตรนี้ ให้เอาตีนมาเหยียบหน้าพวกดิฉัน 3 คนเลยค่ะ ถ้าสูตรนี้ผ่านไม่มีใครได้บำนาญน้อยลงแน่นอน ส่วนคนที่ส่งอยู่เพื่ออนาคตจะเป็นการการันตีถึงความแฟร์ที่สุด เท่าที่ประกันสังคมจะมอบให้ท่านได้” น.ส.รักชนก กล่าว
น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตนอยากจะเรียกร้อง ผู้ประกันตนทั่วประเทศ สื่อมวลชนที่กำลังทำข่าวอยู่ หรือผู้ชมที่กำลังดูอยู่ทางบ้านเชื่อว่าหลายคนส่งประกันสังคมอยู่ และรู้ว่ามีการทำประชาพิจารณ์สูตรบำนาญนี้อยู่ อาจจะรู้สึกว่ายังไม่ต้องเข้าไปทำและไม่เกี่ยวกับตัวเอง ยังไม่ถึงเวลาที่จะได้รับบำนาญ จึงขอเรียกร้องให้เข้าไปทำประชาพิจารณ์กัน สนับสนุนสูตรนี้ให้ผ่านออกมา เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของผู้ประกันตน หรือตัวเองในอนาคต เราไม่ต้องการไอโอให้เข้ามาปั่นข้อมูล เราต้องการผู้ประกันตนที่มีชีวิต มีเลือดเนื้อ มีตัวตนจริงๆ ในการเข้าไปช่วยกันทำให้สิ่งนี้ผ่านไปได้ ประชาพิจารณ์อันนี้กำลังจะหมดในวันที่ 17 ต.ค.นี้แล้วตนเชื่อว่านี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของการขัดขวางบำนาญสูตรนี้ จึงขอให้ทุกคนไปช่วยกันทำประชาพิจารณ์เพื่อเห็นแก่หลังพิงสุดท้ายของตัวเองในอนาคต
ขณะที่ นายสหัสวัต กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับบำนาญอยู่แล้วไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ได้รับบำนาญน้อยลงจากสูตรนี้ และคนที่ยังเป็นผู้ประกันตนอยู่ไม่ว่าจะมาตราอะไรก็ตาม สูตรแคร์เป็นหลักประกันในชีวิตว่าเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจะยังคงมีบำนาญที่สมเหตุสมผล เช่น 10 ปีที่แล้วไม่มีใครคิดว่าบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่จะปิดตัวลง ไม่มีใครคิดว่าจะมีการเลิกจ้างลูกจ้างในบริษัทชิ้นส่วนยานยนต์ และเมื่อเกิดการเลิกจ้างคนกลุ่มนี้ศักยภาพในการส่งประกันสังคมลดลง หากใช้สูตรเดิมคนที่ถูกเลิกจ้างในปลายชีวิตอาจเหลือ 1,000 กว่าบาท ซึ่งสูตรนี้จะเป็นหลักประกันว่า ไม่ว่าจะถูกเลิกจ้างในช่วงบั้นปลายชีวิตหรืออย่างไรก็ตาม จะยังคงได้รับบำนาญอย่างสมเหตุสมผล ส่งมากได้มาก ส่งน้อยได้น้อย โดยสูตรแคร์ถือเป็นสูตรที่ยุติธรรมและแฟร์ที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว ถือเป็นสูตรที่ผ่านการคิดมาอย่างยาวนานทั้งจากนักวิชาการและนักคณิตศาสตร์ประกันภัย รวมถึงคิดบนหลักฐานความเป็นจริง