สนามข่าว 7 สี - "บิ๊กเต่า" เร่งตรวจสอบบัญชีผู้เกี่ยวข้องวัดนาป่าพงกว่า 20 บัญชี ยืนยันว่าคดีนี้ไม่สามารถยอมความได้ เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินของพระ และวัดนาป่าพง ว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับเอกสารหลักฐานจากฝั่ง "สีกายุ" ที่ประเทศเยอรมัน และทนายความของทางวัดนาป่าพง มาตรวจสอบแล้ว แต่ที่ต้องตรวจสอบเป็นพิเศษคือ เส้นทางการเงินของเจ้าอาวาส, วัด, พระลูกวัด และคนใกล้ชิด
ซึ่งจากเดิมพบเพียง 6 บัญชี แต่ภายหลังพบว่ามีมากกว่า 20 บัญชี ช่วงแรกค่อนข้างเป็นไปอย่างล่าช้า เพราะติดขั้นตอนการประสานกับสถาบันทางการเงิน จึงประสานขอความช่วยเหลือจาก กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเร่งรัดข้อมูล หากได้ข้อมูลทั้งหมดมาจะตรวจสอบโดยละเอียด อาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ
ส่วนการส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. พิจารณา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ข้อมูลคดีที่ "สีกายุ" เคยนำมาร้องเรียนให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดก่อนหน้านี้ ในส่วนนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.แล้ว และทาง ป.ป.ช. ก็ได้ส่งเรื่องกลับมาให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อ ซึ่งอยู่ระหว่างส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรหรือไม่
ส่วนที่ 2 คือสำนวน คดีที่ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ฝ่าย "สีกายุ" ได้เข้าแจ้งความไว้นั้น พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คู่กรณีสองฝ่ายได้เจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อขอยุติคดีนั้น ได้รับการยืนยันว่าจากฝ่าย "สีกายุ" ว่าทางวัด ฯ มีความพยายามที่จะขอไกล่เกลี่ยจริง แต่ฝ่าย "สีกายุ" ไม่ขอไกล่เกลี่ยด้วย
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน อีกทั้งผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงไม่สามารถยอมความกันได้
