ทนายอนันต์ชัย หอบหลักฐานส่ง ปปป. จี้สอบเงินกฐินวัดนาป่าพง

ทนายอนันต์ชัย หอบหลักฐานส่ง ปปป. จี้สอบเงินกฐินวัดนาป่าพง

View icon 1.2K
วันที่ 7 ต.ค. 2568 | 12.39 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ทนายอนันต์ชัย หอบหลักฐานส่งตำรวจ ปปป. จี้สอบเงินกฐินวัด หลังถูกครหาใช้เงินผิดวัตถุประสงค์แจกโบนัสเจ้าหน้าที่วัด ซื้อรถให้อุบาสก อุบาสิกา จะได้ใช้โอกาสชี้แจงแสดงความโปร่งใสแก่ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธา

วันนี้ (7 ต.ค.68) ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำเอกสารเส้นทางการเงินไปยื่นกับตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขอให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดนาป่าพง กับพวกรวม 13 คน กรณีต้องสงสัยว่านำเงินที่ได้จากการทอดกฐินของวัดไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่วัด 4 คน ซื้อรถยนต์ราคาแพงให้กับบุคคลต่าง ๆ

ทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า  ตนได้พยานหลักฐานจากสื่อมวลชน ที่ได้สัมภาษณ์ "ลุงต้อ" เจ้าหน้าที่วัดนาป่าพง ว่าระหว่างปี 2556 - 2558 หลังจบการทอดกฐินปลายปี วัดนาป่าพงจะแจกโบนัสให้กับเจ้าหน้าที่วัด 4 คน โดยปี 2556 แต่ละคนได้รับโบนัสคนละ 336,000 บาท ปี 2557 ได้รับโบนัสคนละ 360,000 บาท ปี 2558 ได้รับโบนัสคนละ 480,000 บาท และปี 2559 ได้รับโบนัสคนละ 500,000 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 6,704,000 บาท โดยเป็นการโอนเงินจากบัญชีวัด เข้าบัญชีธนาคารทั้ง 4 คน จึงต้องการให้ตำรวจ บก.ปปป. ตรวจสอบว่าเงินโบนัสนี้เป็นเงินกฐินจากประชาชนหรือไม่

ประเด็นที่ 2 จากข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อมวลชนและมีผู้ร้องเรียนมาว่า ระหว่างปี 2557 ถึง 2561 วัดนาป่าพงต้องสงสัยว่าได้ซื้อรถยนต์ให้อุบาสิกา 3 คน และอุบาสก 3 คน เป็นรถเบนซ์ 6 คัน รถฟอร์ด 1 คัน และ รถมาสด้า 1 คัน มูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านบาท จึงขอให้ตำรวจตรวจสอบว่าเงินที่นำมาซื้อรถทั้งหมดนี้ เป็นเงินของวัดหรือไม่ หรือเป็นเงินที่ได้มาจากไหน

ประเด็นที่ 3 ขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของอดีตประธานมูลนิธิพุทธโฆษณ์ เนื่องจากพบว่าในแต่ละปี วัดนาป่าพงขอรับบริจาคเงินทอดกฐินในชื่อบัญชีมูลนิธิพุทธโฆษณ์ แทนที่จะโอนเข้าบัญชีของวัด และระหว่างวันที่ 17 พ.ย. 2557 ถึง 12 ก.พ. 2558 มีการโอนเงินเข้าบัญชีอดีตประธานมูลนิธิพุทธโฆษณ์ กว่า 10 ล้านบาท ซึ่งตามข้อกฎหมายแล้วไม่สามารถทำได้ เพราะตามกฎหมายวัดจะเก็บเงินได้ไม่เกิน 3,000 บาท ที่เหลือจะต้องโอนเข้าบัญชีของวัด และการนำเงินบริจาคไปใช้ ก็ต้องใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ไม่ใช่นำไปแจกจ่ายให้กับบุคคลอื่นใด อีกทั้งมูลนิธิกับวัดเป็นนิติบุคคลที่แยกออกจากกัน การนำเงินของวัดมาปนกับเงินของมูลนิธิ ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง