สามีชาวเยอรมัน อายุ 69 ปี ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ไม่รู้ว่าภรรยาชาวไทยผูกคอตายในบ้าน จนกระทั่งเพื่อนบ้านมาเจอ คาดเครียดเรื่องขับรถแท็กซี่ประสบอุบัติเหตุแล้วคู่กรณีเรียกเงิน 40,000 บาท แต่ไม่มีให้
เวลา 18.30 น. วานนี้ ( 14 ต.ค. 68 ) ร.ต.ท.ณวัฐปกรณ์ คุณัชญาศิรัณ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุหญิงผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านพัก ในซอย 14 หมู่ 8 ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จึงประสานแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลพุทธโสธร เจ้าหน้าที่ พฐ. และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นบ้านปูน 2 ชั้น หน้าบ้านพบสามีผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ Mr.Dick อายุ 69 ปี ชาวเยอรมัน เป็นผู้พิการทางการมองเห็น ตาบอดทั้ง 2 ข้างนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน ตรวจสอบภายในบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตเพศหญิง ทราบชื่อต่อมาคือนางนิสรา อายุ 53 ปี มีอาชีพขับรถแท็กซี่อยู่ใน กทม. สภาพศพใช้ผ้าพันคอผูกเข้ากับเสาราวบันได ลักษณะนั่งเสียชีวิต มีเลือดไหลออกทางจมูกทั้ง 2 ข้าง ใบหน้าเปรอะเลือดช่วงบริเวณปากและคาง แพทย์ได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างนางนิสรา ลงมาทำการตรวจสอบและชันสูตรเบื้องต้น ก่อนจะส่งร่างไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลพุทธโสธร เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง
เพื่อนบ้าน เล่าว่า บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 2 คนมาเช่าบ้านอยู่ได้ปีกว่าแล้ว ปกติแล้วผู้เสียชีวิต จะออกไปขับแท็กซี่ที่ กทม. 2-3 วันจะกลับมาครั้ง เวลาไปขับแท็กซี่ก็จะทำแซนวิซ ใส่ตู้เย็นไว้ให้สามีกิน หาก 2-3 วันผู้ตายไม่กลับมา ตนเองก็จะเข้าไปดูและทำอาหารให้ Mr.Dick ได้รับประทาน ช่วงเกิดเหตุเพื่อนบ้านอีกคนได้ตะโกนเรียกตน ให้ไปช่วยเปิดไฟภายในบ้านของ Mr.Dick พอเปิดไฟก็เห็นร่างผู้ตายนั่งผูกคอเสียชีวิตอยู่ที่บันได
เพื่อนบ้านอีกคนซึ่งเป็นล่ามแปลภาษา เปิดเผยว่า Mr.Dick เดินทางมาจากเยอรมันใช้ชีวิตหลังเกษียณคบหากับผู้ตาย ก่อนมาเช่าบ้านอยู่ที่ฉะเชิงเทราได้ไม่นาน โดย Mr.Dick ตาบอดทั้ง 2 ข้างจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนแรกยังพอเห็นบ้าง แต่มาบอดสนิทเมื่อไม่กี่ปีมานี้ โดยผู้ตายมีอาชีพขับแท็กซี่ในกรุงเทพมหานคร ออกจากบ้านไปหลายๆ วันจะกลับมาครั้ง โดยช่วงสายของวันนี้ ผู้ตายนั่งแท็กซี่กลับมาบ้าน บ่นกับตนว่าขับรถแท็กซี่ประสบอุบัติเหตุ แล้วคู่กรณีเรียกเงิน 40,000 บาท แต่ไม่มีให้ จึงเดินทางกลับมาที่บ้านพักก่อนแล้วรอเจรา ก่อนจะมาทราบว่าผู้ตายเสียชีวิต ตอนให้เพื่อนบ้านเข้ามาเปิดไฟ