"กัมพูชา" บุกจับชาวจีน-เวียดนาม ปาร์ตีเสพยา

View icon 245
วันที่ 16 ต.ค. 2568 | 11.25 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลังมีกระแสจับตา "กัมพูชา" อาจจะชี้ความผิดเรื่องแก๊งสแกมเมอร์ ไปที่กลุ่มทุนจีนเทา แต่ก็ยังไม่มีการพูดเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็เริ่มมีข่าวการจับกุมคดียาเสพติด ที่เกี่ยวพันกับยาเสพติดออกมาให้เห็นแล้ว

สำนักงานข่าว Fresh News ซึ่งเป็นสื่อของกัมพูชา โพสต์เรื่องนี้ลงสื่อสังคมออนไลน์ เนื้อหาเปิดเผยถึงผลปฏิบัติการจับกุม ชาวเวียดนาม จีน และชาวกัมพูชา ประมาณ 100 คน ที่อยู่ในอาคารแห่งหนึ่ง บนเกาะเพชร เลียบถนนสบิต เขตจอมการ์มน หลังได้รับเบาะแสว่ามีการลักลอบเปิดเป็นสถานที่เสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่กองกำลังตำรวจกรมปราบปรามยาเสพติด สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ร่วมกับตำรวจท้องที่ จึงเปิดปฏิบัติการเข้าปิดล้อมตรวจค้นตั้งแต่เที่ยงคืนครึ่งที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องสงสัย และยึดของกลางได้จำนวนมาก จึงนำส่งไปยัง กรมปราบปรามยาเสพติด เพื่อทำการสอบสวนต่อไป

เรื่องแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา มีความเห็นจาก รองศาสตราจารย์ ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่า การที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน เงียบ มีความเป็นไปได้ที่กำลังนึกหาเหตุผลอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การโยนความผิดกับกลุ่มทุนจีนสีเทา เพราะที่ผ่านมา กัมพูชา มักเล่นบทเหยื่อมาโดยตลอด และอย่างที่ทุกคนรู้ว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน คุมสื่อในกัมพูชา การนำเสนอข่าวใด ๆ ที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง จึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่กลับไม่ออกมาแก้ต่างเรื่องความสัมพันธ์กับ นายเฉิน จื้อ ที่เพิ่งถูกสหรัฐฯ และอังกฤษ ขึ้นบัญชีดำ ทั้งที่การยื้อเวลาด้วยการเงียบ ก็ไม่ได้เป็นผลดีต่อ กัมพูชา

สอดคล้องกับที่ นายทรงฤทธิ์ โพนเงิน นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง อธิบายเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่าง "แก๊ง 14 K" ซึ่งมี นายเฉิน จื้อ รวมอยู่ในแก๊ง คอยทำหน้าที่ฟอกเงิน

ว่ามี นายฮุน โต หลานของ สมเด็จฯ ฮุน เซน เป็นบิกของบริษัทคริปโทเคอร์เรนซี Huione Group, พลเอก ดี วิเชีย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ลูกเขย สมเด็จฯ ฮุน เซน, พลตำรวจเอก เนต สะเวิน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลานเขย สมเด็จฯ ฮุน เซน เข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่การปราบปรามแก๊งพวกนี้ ทำได้ไม่จริงจัง

และล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักข่าว Yonhap ซึ่งเป็นสื่อของเกาหลีใต้ อ้างแหล่งข่าว ระบุความเคลื่อนไหวกลุ่มอาชญากรรมในกัมพูชา เริ่มย้ายฐานจากศูนย์กลางขนาดใหญ่ไปยังพื้นที่ห่างไกล เช่น เกาะร้าง หรือเขตชายแดน และบางกลุ่มก็อพยพไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยต้องโฟกัสที่ "สีหนุวิลล์" เริ่มเคลื่อนย้ายมาตั้งแต่เดือนก่อน ส่วนที่ พนมเปญ ตามแผนจะเริ่มเคลื่อนย้ายต้นเดือนนี้ ขณะเดียวกันก็ความพยายามจะเคลื่อนย้ายเหยื่อชาวเกาหลีใต้ ออกจากพื้นที่ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

ขอบคุณภาพจาก : Facebook CSI LA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง