วี ซอง ลัค ที่ปรึกษาสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติกัมพูชา แถลงยืนยันว่า อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหาร คือ คิม จีนา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำทีมเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงยุติธรรม, สำนักงานตำรวจและสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ในนามทีมปฏิบัติการร่วมพิเศษ เพื่อติดตามคดีนักศึกษาหนุ่มชาวเกาหลีใต้ถูกแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชากักขังเรียกค่าไถ่ ก่อนทรมานจนเสียชีวิต และนำตัวชาวเกาหลีใต้ที่สูญหายราว 80 คน กลับคืนมา ซึ่งทางการเกาหลีใต้ยอมรับว่าชาวเกาหลีใต้ที่ทำงานอยู่ในเครือข่าวศูนย์สแกมเมอร์ในกัมพูชา ทั้งที่ถูกล่อลวงมาทำงานและสมัครใจมีราว 1,000 คน นอกจากนี้คาดว่าจะมีการขอข้อมูลกรณีล่าสุดที่พบศพหญิงเกาหลีใต้อายุ 30 ปี เสียชีวิตบริเวณชายแดนเวียดนามติดกัมพูชา ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะเป็นเหยื่อที่ถูกลวงมาทำงานให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ในกัมพูชา
หลังจากสหรัฐฯ และอังกฤษ มีมาตรการยึดทรัพย์ เฉิน จื้อ นักธุรกิจชาวจีนสัญชาติกัมพูชาเจ้าของ ปรินซ์กรุป เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าเกือบ 5 แสนล้านบาท ฐานตกเป็นผู้ต้องหาคดีล่อลวงและบังคับชาวต่างชาติให้ทำงานในศูนย์สแกมเมอร์หลอกลวงออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียใต้ ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในกัมพูชาเป็นอย่างมาก หลังจากแอปฯ ธนาคารปรินซ์แบงก์ในเครือปรินซ์กรุปล่ม เพราะคนแตกตื่นขอถอนเงิน แม้ธนาคารปรินซ์แบงก์จะยืนยันว่า ยังคงดำเนินการตามปกติ แต่ลูกค้ายังคงกังวลว่าเงินในบัญชีของตนอาจถูกฟอกเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกสหรัฐฯ ยึดทรัพย์ เพราะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีหรือทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ได้ ทั้งนี้บริษัทปรินซ์แบงก์ยืนยันว่า ปรินซ์กรุป เป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหาร การถกยึดทรัพย์ของปรินซ์กรุป จึงไม่ส่งผลต่อการดำเนินการของธนาคาร
ส่วนกระทรวงต่างประเทศของไทย โพสต์สนับสนุนมาตรการของสหรัฐฯ ในการปราบปรามเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะสอดคล้องกับความพยายามของไทยในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและดำเนินการกับผู้กระทำผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวงออนไลน์ การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานบังคับ และการฟอกเงินในการนี้ ไทยมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ และยืนยันเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ที่จะขจัดปัญหาศูนย์หลอกลวงออนไลน์
