ปานเทพ จี้ยกเลิกประชุม JBC หวั่นเสียดินแดนเพิ่ม

ปานเทพ จี้ยกเลิกประชุม JBC หวั่นเสียดินแดนเพิ่ม

View icon 162
วันที่ 17 ต.ค. 2568 | 11.37 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ปานเทพแนะยกเลิกประชุม JBC หวั่นซ้ำรอยเขาพระวิหาร หากเสียดินแดนเพิ่ม "อนุทิน" ต้องรับผิดชอบชั่วลูกชั่วหลาน ชี้เป็นโอกาสทองฉีก MOU43 กัมพูชาละเมิดอนุสัญญากรุงเวียนนาก่อน

วันนี้ (17 ต.ค.68) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เปิดเผยถึงกรณีที่นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวว่าหากประเทศไทยเข้าประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20-21  ต.ค.68 จะไม่กระทบสิทธิในการยกเลิก MOU 43 อย่างแน่นอน ซึ่งตนมองว่า เป็นการโกหก เพราะจะทำมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ประเทศไทยสูญเสีย 11 พื้นที่แนวชายแดน ซึ่งมีระยะทางรวมกันกว่า 195 กิโลเมตร ที่พลโทบุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาค 2 เคยบอกว่ากัมพูชารุกล้ำไทยจริง แต่ทางรัฐบาลกลับไม่ดำเนินการใด ๆ

อาจารย์ปานเทพ มองว่า ขณะนี้เป็นโอกาสทองครั้งเดียว ที่ประเทศไทยสามารถยกเลิก ฉีก MOU 43 หรือชะลอการประชุม JBC ออกไป โดยกดดันให้ทางกัมพูชาเลิกนำแผนที่ 1:200000 มาอ้าง แต่ให้ไทยพุ่งเป้าไปที่การละเมิด MOU 43 ที่กัมพูชาได้เปิดศึกยิงใส่พลเรือนก่อน  เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนทั้งโลก

“หากไทยยังดื้อดึงที่จะเข้าประชุม JBC ก็จะเข้าทางของกัมพูชา เพราะถ้ามีการตกลงกันแล้ว ไทยก็จะไม่สามารถยกเลิก MOU 43 ได้ และจำเป็นต้องถอนกำลังออกมา จนอาจนำไปสู่การสูญเสียดินแดนอีกครั้งเหมือนกันปี 2505 ที่ประเทศไทยสูญเสียเขาพระวิหาร และยืนยันว่าต่างชาติไม่สามารถแทรกแซงได้ตามที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศแถลง” อาจารย์ปานเทพ ระบุ

อาจารย์ปานเทพ ยังให้คำแนะนำอีกว่า ขอให้รัฐบาลไทยยกเลิก MOU 43 โดยใช้มาตรา 60 ตามกฎหมายอนุสัญญากรุงเวียนนา ว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญาปี พ.ศ. 2512 เนื่องจากกัมพูชามีการละเมิดร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นทั้งวางทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน หรือยิงใส่พลเรือน ซึ่งตอนนี้กัมพูชาทำทั้ง 2 อย่างไปแล้ว ก็จะเข้าสู่มาตรา 45 ที่สามารถฉีก MOU 43 ได้ทันที

ดังนั้น ตนจึงตั้งตำถามกลับไปว่า หากไทยเข้าประชุม JBC แล้วทำให้ประเทศไทยสูญเสียดินแดนเพิ่มเติม รัฐบาลที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะต้องรับผิดชอบไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

นอกจากนี้ อาจารย์ปานเทพยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า รัฐบาลมีการแต่งตั้งนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทยและที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศด้านเขตแดน เป็นประธาน JBC ฝ่ายไทย แต่กลับไม่มีการประกาศให้ประชาชนทราบ มีนัยยะอะไร ทำไมถึงเก็บเป็นความลับ แล้วที่มีความเร่งรีบจะเข้าประชุม JBC ตามกำหนดการเดิม เป็นเพราะกังวลที่จะถูกสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา ขู่จะเปิดโปงธุรกิจผิดกฎหมายของนักการเมืองไทยที่อยู่ในฝั่งกัมพูชา หรือไม่ ซึ่งตนก็มองว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน