ตำรวจจันทบุรี บุกช่วยเด็กนักเรียนชาวเขา ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ช่วงปิดเทอม อ้างได้ค่าจ้างสูงเดือนละ 30,000 บาท และพบเหยื่อ 1 คน หาเงินเป็นค่าเดินทางไปเรียนต่อที่จีน เพราะฐานะทางบ้านยากจน และพ่อเป็นผู้พิการ
วันนี้ (18 ต.ค.68 ) ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือศูนย์ PCT สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับแจ้งเหตุมีเหยื่อถูกหลอก พาไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยจะพาข้ามไปยังกัมพูชาที่ฝั่ง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. จึงประสาน พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.เสถียร บุญค้ำ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผบก.สส.ภ.2 สั่งการไปยัง พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ.จว.จันทบุรี และ พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาต รอง ผบก.ฯ และ พ.ต.อ.พีรพล เสลารัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.จันทบุรี ร่วมกับตำรวจ สภ.บ้านแปลง ปฏิบัติการช่วยเหลือ
ตำรวจร่วมกันวางแผนในการให้ความชาวยเหลือ โดยนำกำลังปิดล้อมที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลังได้รับแจ้งว่า มีเหยื่อ 4 คนถูกหลอกให้มาพักภายในรีสอร์ต เพื่อรอมีคนมารับพาข้ามไปทำงานเป็นแอดมินออนไลน์ ที่ฝั่งประเทศกัมพูชา
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ประสานเจ้าของรีสอร์ต เฝ้าสังเกตุดูความเคลื่อนไหว กระทั่งพบกลุ่มชายหญิง อายุประมาณ 20–30 ปี จำนวน 10 คน ถือกระเป๋าเดินทางออกจากห้องพัก ลักษณะคล้ายรอคนมารับ กระทั่งพบรถ 2 คัน เป็นรถSUV และรถกระบะ ขับเข้ามารับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี และ สภ.บ้านแปลง จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ และควบคุมตัวผู้ขับรถทั้ง 2 คน พร้อมผู้เสียหายรวม 13 คน จึงควบคุมตัวทั้งหมด 15 คน ไปยัง กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.จันทบุรี เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด
โดยมีพล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผบก.สส.ภ.2 เดินทางมาสอบปากคำ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อเข้าร่วมคัดกรองเหยื่อ เบื้องต้นไม่พบพฤติการณ์เข้าข่ายการค้ามนุษย์
สำหรับเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ พบว่า มีกลุ่มเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 16-18 ปี รวมอยู่ด้วยจำนวน 7 คน ให้ข้อมูลว่า พวกตนเป็นเด็กชาวเขา เดินทางมาจาก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีบัตรประชาชนถูกต้อง พูดภาษาจีนได้ ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม จึงต้องการหารายได้เสริมในช่วงปิดเรียน และมีคนชักชวนให้มาทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยอ้างบอกว่าจะได้ค้าจ้างสูงเดือน 30,000 บาท จึงชักชวนกันมา
และยังพบว่ามีเหยื่อ 1 คน ซึ่งเป็นนักเรียนที่ให้ข้อมูลว่า ตนเองสอบได้ทุนไปเรียนต่อที่ประเทศจีน แต่ฐานะทางบ้านยากจน พ่อเป็นผู้พิการ จึงต้องการหาเงินเป็นค่าเดินทางไปเรียนต่อ เลยร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ด้วย
เจ้าหน้าที่ได้จัดทำประวัติของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม ทั้งนี้เชื่อเหยื่อที่ถูกหลอกในครั้งใน ซึ่งส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ หากสามารถพาข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาได้ อาจถูกขายต่อไปเป็นทอดๆ จึงฝากเตือนไปประชาชนที่ถูกชักชวนไปทำงาน และอ้างว่าได้ค่าตอบแทนถูก ส่วนใหญ่แล้วเป็นขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ต้องหาหลอกเหยื่อไปทำงาน ซึ่งตำรวจกวดขันจับกุมอย่างหนัก
