นอนหน้าธนาคาร รอสแกนใบหน้ารับคนละครึ่งพลัส

นอนหน้าธนาคาร รอสแกนใบหน้ารับคนละครึ่งพลัส

View icon 139
วันที่ 20 ต.ค. 2568 | 07.22 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชาวบ้านหอบเสื่อ หมอน ผ้าห่ม มานอนรอที่หน้าธนาคารตั้งแต่เที่ยงคืน หวังให้เจ้าหน้าที่ช่วยโหลดแอปฯ เป๋าตัง และสแกนใบหน้า เพื่อรอลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัสวันนี้

วันนี้ (20ต.ค.68) เป็นวันแรก โครงการคนละครึ่งพลัส เปิดให้ประชาชนเริ่มลงทะเบียนผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" ตั้งแต่วันที่ 20-26 ต.ค.68 เวลา 06.00 - 22.00 น. ผู้ที่ได้รับสิทธิเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.- 31 ธ.ค.68 เวลา 06.00 - 23.00 น. แต่ยังมีชาวบ้านในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ที่ยังไม่มีแอปฯ เป๋าตัง และสแกนใบหน้ายังไม่ผ่าน ได้มาเฝ้ารอที่ด้านหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาต่างๆ ในเมืองชัยภูมิ

รวมถึงที่ด้านหน้าธนาคารกรุงไทยสาขาถนนหฤทัย มีชาวบ้านจากหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ ทั้งมาจาก อ.คอนสวรรค์ และ อ.เมืองชัยภูมิ จำนวนมาก หลายคนได้หอบเสื่อ หมอน ผ้าห่ม มานอนรอที่หน้าธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา จำนวนหลายราย เพื่อรอเข้าคิวจองสิทธิ์ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารฯ ช่วยลงแอปเป๋าตั้ง และช่วยสแกนใบหน้าให้ด้วย หลังเปิดทำงานธนาคารฯ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัยกลางคน ไปถึงผู้สูงอายุ นั่งรอเจ้าหน้ที่ธนาคารเรียกหมายเลขของตนที่กดคิวไว้ เพื่อแสดงตัวตน หวังที่จะได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส

รวมถึงยายสาย วัย 67 ปี ชาวบ้านยางหวาย ต.บ้านโสก อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ บอกว่าวันนี้ ได้ชวนลูกหลานมาด้วยอีก 2 คน นำเสื่อ หมอน ผ้าห่ม มากางนอนรอที่หน้าที่ธนาคารตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา หวังว่าจะได้คิว 1 เข้าไปให้เจ้าหน้าที่ธนาคารลงแอปเป๋าตั้ง และสแกนใบหน้าให้ หลังพึ่งซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่มาในราคากว่า 3 พันบาท แต่ไม่รู้จะลงทะเบียนทันหรือไม่ เพราะรัฐบาลให้สิทธิ์เพียง 20 ล้านคนเท่านั้น

ขณะที่วันแรก โครงการคนละครึ่งพลัส เปิดให้ประชาชนเริ่มลงทะเบียนผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" มีชาวบ้านจำนวนมากที่ยังไม่ผ่านการสแกนใบหน้า เนื่องจากเน็ตในมือถือช้า ได้เดินทางมาตู้ ATM หน้าธนาคารฯ เพื่อสแกนใบหน้าที่ตู้ ATM จำนวนมาก ซึ่งการลงทะเบียนตั้งแต่ 20 ต.ค.2568 ผู้ที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับเงินสนับสนุน 2,000 บาท และสูงสุด 2,400 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ ผู้ได้รับสิทธิต้องใช้จ่ายครั้งแรกผ่าน ภายใน 11 พ.ย.2568 เวลา 23.00 น.

โดยโครงการคนละครึ่งพลัส กระทรวงการคลัง ตั้งเป้าเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงปลายปี ระหว่างเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม 2568 จำนวน 20 ล้านสิทธิ์ ภายใต้กรอบงบประมาณรวม 44,000 ล้านบาท โดยใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2569 และงบกลาง 19,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึงเดือนธันวาคม 2568 รวมระยะเวลา 2 เดือน