ปลอดประสพจี้ปราบสแกมเมอร์ในเขมร ก่อนถูกเหมาเป็นพวก

ปลอดประสพจี้ปราบสแกมเมอร์ในเขมร ก่อนถูกเหมาเป็นพวก

View icon 41
วันที่ 20 ต.ค. 2568 | 15.15 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ปลอดประสพ จี้ปราบสแกมเมอร์ในเขมร ก่อนถูกเหมาเป็นพวก ตอนนี้เรื่องสำคัญที่ต้องทำก่อนไม่ใช่ปักปันเขตแดนโดย MOU43 ความมั่นคงเปลี่ยนมาเป็นฟอกเงินของสแกมเมอร์ นักธุรกิจ-นักการเมืองไทย ถูกกล่าวหาว่าพัวพันอีกนับร้อย รัฐบาลไทยต้องเลือกข้างว่าจะเป็น "ผู้ปราบ" หรือ "ผู้ถูกปราบ"

วันนี้ (20 ต.ค.68) ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัวเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งปราบสแกมเมอร์ในเขมร ก่อนถูกเหมาเป็นพวก โดยระบุว่า เกาหลีใต้เอาจริงกับกระบวนการสแกมเมอร์ คอลเซนเตอร์ และการฟอกเงินในเขมร ตาย 3 จับได้ที่สีหนุวิล อีก 64 คน และยังหาไม่เจออีก 600 คน เขาถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่รัฐบาลไทยกลับทำงง ๆ ตามสถานการณ์ไม่ทัน ทั้งที่มีข้อมูลว่า มีคนไทยร่วมกับแก๊งโจรนี้ถึง 6,000 คน

ดร.ปลอดประสพ ระบุว่า ปลายเดือนนี้ จะมีประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ที่มาเลเซีย เกาหลีใต้บอกแล้วว่า จะชวนจีน สหรัฐฯ อังกฤษ และสมาชิกอาเซียน ร่วมโครงการปราบกลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่หากินอยู่ในกัมพูชา ซึ่งอาจมีจำนวนมากถึงแสนคน และเผลอ ๆ จะมีเจ้าหน้าที่อีกนับพันคน เกี่ยวข้อง คนไทยหวังว่า ในที่ประชุม ผู้แทนไทยจะกล้าประณามฟ้องกัมพูชากันแบบซึ่ง ๆ หน้า
     
เกาหลีใต้ ได้แถลงในองค์การสหประชาชาติโดยเฉพาะต่อสำนักงานสิทธิมนุษย์ชน ให้ร่วมปราบปราม เพราะเห็นว่า คนงานที่ไปทำงานอยู่นี้ถูกปฏิบัติเยี่ยงทาส คราวนี้ล่ะ จะได้เห็นกึ๋นของนักสิทธิฯ ไทย ว่าจะดีแต่พูดหรือเปล่า และวันนี้รัฐบาลเกาหลีได้ประกาศยุติโครงการช่วยเหลือเขมร 7 โครงการ โดยอธิบายว่า ไม่มีความเชื่อใจ และหนึ่งในนั้นคือ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำโขง ซึ่งผมมีส่วนเริ่มต้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ขณะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเป็นประธานของที่ประชุม

สำหรับอังกฤษได้แจ้งความชาวสิงคโปร์ 3 คนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ส่วนญี่ปุ่น ก็จับชาวญี่ปุ่น 3 คน เช่นกัน ข้อหาเดียวกันคือร่วมกับแก๊งสแกมเมอร์ในเขมรหลอกลวงเงิน
    
วันนี้โลกล้อมกัมพูชาแล้ว ประเทศไทยซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ให้น้ำ ให้ไฟ ให้อินเทอร์เน็ต และอาจให้ที่อยู่อาศัยหัวหน้าแก๊ง และเผลอ ๆ อาจเป็นที่ฟอกเงินด้วย ก็พลอยโดนไปด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ เศรษฐกิจไทยพังแน่นอน พวกเขาจะไม่ค้าขายกับเรา จะไม่มาลงทุน ไม่ซื้อของและไม่มาเที่ยว รัฐบาลเฉพาะกิจนี้ต้องรีบคิด รีบทบทวนและหาวิธีแก้ไขโดยด่วน
    
ที่ผ่านมารัฐบาลไทยเคยคิดว่า การบริหารจัดการชายแดนไทย-เขมร และการปักปันเขตแดนโดยใช้ MOU 43 เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำก่อน แต่สถานการณ์วันนี้ไม่ใช่แล้ว ความมั่นคงของเราได้เปลี่ยนมาเป็นเรื่องการฟอกเงินโดยแก๊งสแกมเมอร์นับแสน ที่มีศูนย์กลางอยู่ในกัมพูชาซึ่งมีอาณาเขตติดกับไทยจากทะเลที่ตราดไปจนถึงภูเขาที่อุบลราชธานียาว 800 กม. และมีคนไทย นักธุรกิจไทย ธนาคาร นักการเมืองไทย ที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันอีกนับร้อย
    
ดร.ปลอดประสพ ระบุอีกว่า รัฐบาลไทยต้องเลือกข้างว่าจะเป็น“ผู้ปราบ” หรือ“ผู้ถูกปราบ” เราต้องพยายามเป็นศูนย์กลางการปฎิบัติการการปราบปราม ไม่ใช่เป็นที่หลบหนีหรือหลบซ่อนให้พักพิงพวกโจรเหล่านั้น รัฐบาลไทยต้องรีบสอบสวนและลงโทษคนไทยที่ไปเกี่ยวข้องโดยไม่ละเว้นและไม่ล่าช้า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลเรื่องนี้มาแล้วโดยมีนายกฯ เป็นประธาน และจะมีการประชุมวันนี้ ซึ่งผู้คนเขานินทาว่าทำงานช้า เพราะเห็นตั้งมานานแล้วไม่เห็นมีผลงานอะไรออกมา ในขณะที่สหรัฐอเมริกาได้ออกกฎหมายกวาดล้างอาชญากรสแกมเมอร์ที่มีฐานอยู่ในเมียนมา ลาว และกัมพูชาแล้ว ก็หวังว่า จะไม่มีชื่อประเทศไทยนะ

ขอเตือนว่า หากรัฐบาลต้องการจะอยู่ถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ พวกท่านต้องรีบทำอะไรที่เป็นมรรคเป็นผล เช่น เอาคนไทยที่ถูกกักขังเยี่ยงทาสในกัมพูชานับหมื่นคนกลับมา หากเกาหลีใต้เขาทำได้ แล้วมีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลไทยจะทำไม่ได้  วันนี้ประชาชนต้องการให้พวกท่านเป็น“man” มีความกล้าหาญ มีความเป็นผู้นำในการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ โอกาสมาแล้ว ”น้ำขึ้นให้รีบตัก” หรือจะเลือกจมน้ำตายก็เชิญ