ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง สั่งปิดโรงงานพลุระเบิด และกั้นพื้นที่อันตราย รอเจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บหลักฐานและตรวจพิสูจน์สาเหตุ ขณะที่อาการผู้บาดเจ็บ มีบาดแผลไฟไหม้รุนแรง กว่า 70%
ความคืบหน้ากรณีโรงงานพลุระเบิด ที่อำเภอเมืองอ่างทอง ทำให้โรงเก็บสารเคมี และโรงประกอบพลุ พังเสียหาย 2 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เป็นเจ้าของกิจการ คือ นายนันทวัฒน์ อายุ 59 ปี มีบาดแผลถูกไฟลวก กว่า 70% ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี อยู่ในห้องปลอดเชื้อ
ล่าสุด ผู้กำกับการ สภ.เมืองอ่างทอง ให้กั้นพื้นที่ดังกล่าวไว้เป็นพื้นที่อันตราย สั่งปิดโรงงานห้ามเข้า เพราะยังมีสารเคมีที่ใช้ในการประกอบพลุอยู่ภายในโรงงานจำนวนมาก แต่สารอันตราย ได้แก่ แมกนีเซียม ได้ฉีดทำลายไปแล้ว ขณะนี้ ให้รถดับเพลิง ของ อบต.โพสะ สแตนด์บายเฝ้าระวังการปะทุของสารเคมีขึ้นมาได้อีก เพื่อรอให้ตำรวจ EOD และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค.)
วันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง เข้าพูดคุยกับผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้าน ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้กับโรงเก็บสารเคมีอันตราย เพื่อที่จะให้ย้ายออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน แต่ เจ้าของบ้าน ก็คือแม่ของนายนันทวัฒน์ และญาติ ยืนยันว่าจะอยู่อาศัยที่บ้าน ที่มีระยะห่างจากจุดเก็บสารเคมี และสถานการณ์ก็คลี่คลายแล้ว ไม่ยอมย้าย
ส่วนอาการบาดเจ็บของลูกชาย แม่ บอกว่า อาการปลอดภัยแล้ว รู้สึกตัวดี
สำหรับโรงงานพลุแห่งนี้ รู้จักกันในนามของโรงงานพลุลุงฉลวย เปิดทำพลุมากว่า 50 ปี และเคยเป็นแชมป์พลุระดับแชมป์ประเทศไทย 6 ปีซ้อน ก่อนที่จะเลิกแข่งขันและมอบหมายให้ลูกชายมาทำแทน และมีการขออนุญาตทำดอกไม้เพลิงอย่างถูกต้อง แต่เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่การทบทวนมาตรการความปลอดภัย การจัดเก็บสารเคมีของโรงงานพลุและดอกไม้ไฟ ก่อนที่จะถึงเทศกาลลอยกระทง
