อสม.สุดงง สามีและลูกสาวถูกอายัดบัญชีเดือดร้อนไม่มีเงินใช้ ต้องยืมเพื่อนบ้าน ยันไม่เคยทำผิด กม.

อสม.สุดงง สามีและลูกสาวถูกอายัดบัญชีเดือดร้อนไม่มีเงินใช้ ต้องยืมเพื่อนบ้าน ยันไม่เคยทำผิด กม.

View icon 169
วันที่ 22 ต.ค. 2568 | 16.30 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อสม. สุดงงสามีและลูกสาว ถูกอายัดบัญชีเดือดร้อนไม่มีเงินใช้  ต้องยืมญาติและเพื่อนบ้าน  ยันครอบครัวไม่เคยทำผิดกฎหมาย

(22 ต.ค.68)  นางแก้ว อาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.บ้านขาม หมู่ 7  ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ พร้อมนายเกษม   สามี  ซึ่งมีอาชีพทำการเกษตรและรับตัดเย็บเสื้อผ้า ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากนายเกษม สามีและลูกสาว ซึ่งทำงานบริษัทอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ถูกอายัดบัญชี  ทำให้ได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินใช้  ต้องไปหยิบยืมเงินญาติและเพื่อนบ้าน   

โดยนางแก้ว ยืนยันว่า ครอบครัวประกอบอาชีพสุจริต ไม่เคยทำผิดกฎหมาย แต่ทำไมจู่ๆ ถูกอายัดบัญชี  พอไปสอบถามทางธนาคาร ธกส. ซึ่งเปิดบัญชีชื่อของสามี เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า ทางธนาคารดำเนินการตามที่ตำรวจประสานมา ส่วนข้อมูลรายละเอียดต้องไปสอบถามกับตำรวจที่ทำเรื่องมาให้ทางธนาคารอายัดบัญชี  จากนั้นจึงได้ขอสเตทเมนต์จากทางธนาคาร พร้อมสมุดบัญชี  ไปติดต่อสอบถามที่สถานีตำรวจภูธรห้วยราช ตามที่ธนาคารแนะนำ ซึ่งตำรวจก็บอกเพียงว่ามีคนมาแจ้งความร้องทุกข์ที่โรงพักว่าบัญชีของสามีและลูกสาว  เกี่ยวข้องกับกระทำผิดกฎหมาย จึงต้องทำการอายัดเพื่อตรวจสอบ แต่ตำรวจไม่บอกรายละเอียดว่าเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับเรื่องอะไร ยิ่งทำให้ครอบครัวรู้สึกไม่สบายใจ  ไม่รู้ว่าจะถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมายเลย     

นายเกษม ผู้เป็นสามี  บอกว่า ตนเองมีอาชีพทำนาและเลี้ยงวัว ควาย และช่วยภรรยาเย็บผ้า มีบัญชีแค่บัญชีเดียว วันก่อนเอาบัตร ATM ไปกดถอนเงินที่ตู้เพื่อจะนำเงินไปซื้อของทำบุญทอดกฐินและเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินได้ก็ลองกด 2-3 ครั้ง ก็ไม่ได้  ทั้งที่ยังมีเงินเก็บในบัญชีอยู่กว่า 180,000 บาท  จึงไปถามเจ้าหน้าที่ธนาคารก็บอกว่าบัญชีถูกอายัด  ส่วนรายละเอียดในการอายัดต้องไปถามทางตำรวจ  แต่พอไปถามตำรวจก็บอกแค่ว่ามีคนมาแจ้งความ  แต่ไม่บอกรายละเอียดอย่างอื่นเลย  ก็ยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย ตอนนี้เดือดร้อนมาก เพราะไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัวเลย  ก็อยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและปลดอายัดให้โดยเร็วด้วย 

ด้านนางแก้ว อสม. บอกว่า บัญชีดังกล่าวเปิดเป็นชื่อของสามี  แต่ตนเป็นคนดูแลเรื่องการเบิกจ่ายเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว เงินที่เข้าบัญชีก็มีทั้งเงินที่ลูกสาวโอนมาให้ใช้  เงินจากการขายข้าว ขายวัว และรับจ้างเย็บผ้าให้กับบริษัท ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเลย ก็งงว่าทำไมทั้งบัญชีของสามี และลูกสาวถึงถูกอายัด แต่เมื่อประมาณ 5-6 ปี ที่ผ่านมา พี่สาวได้นำที่ 5 ไร่ไปจำนอง นายทุนแล้วหลุด ถูกฟ้องขายทอดตลาด  ซึ่งตนก็ไปประมูลซื้อทรัพย์ที่ดินแปลงดังกล่าวมาในราคา 6 แสนบาท จากบังคับคดี  จากนั้นบังคับคดีได้คืนเงินให้นายทุนซึ่งเป็นคนรับจำนอง แล้วประสานให้พี่สาวของตนเองซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินมารับเงินส่วนต่างประมาณ 400,000 กว่าบาท   โดยพี่สาวได้มอบอำนาจให้ตนเองไปดำเนินเรื่องเอกสารรับเงินส่วนต่าง โดยทางบังคับคดีจ่ายเป็นเช็ค   แล้วตนก็นำไปขึ้นที่ธนาคารโดยโอนเงินเข้าบัญชีพี่สาว  ซึ่งตอนนั้นพี่สาวได้มาใช้ชีวิตกินอยู่ที่บ้านของตัวเอง   เพราะพี่สาวเลิกรากับสามีประกอบกับเป็นคนชอบดื่มด้วย  ตนจึงดูแลบัญชีให้  เวลาพี่สาวอยากเบิกถอนไปใช้ก็จะบอกตนเอง  ซึ่งยอมรับว่ามีการโอนเงินจากบัญชีของพี่สาว เข้าในบัญชีของสามีครั้งละ 5 พัน 15,000 , 30,000 และ 60,000 อีก 3 ครั้ง รวมแล้วก็ประมาณ 2 แสนกว่าบาท  แต่พี่สาวก็รับรู้เพราะการกินอยู่ของพี่สาว  ตนกับสามีก็เป็นคนดูแลรับผิดชอบ  แต่เรื่องนี้ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว   

หากพี่สาวติดใจไปแจ้งความ  ทำไมตำรวนไม่แจ้งรายละเอียดให้ทราบว่าผิดอะไร และถ้าหากเป็นเรื่องนี้ทำไมถึงขั้นถูกอายัดบัญชี   ครอบครัวก็จะได้หาหลักฐานไปชี้แจงที่ไปที่มา  ไม่ใช่อายัดแล้วปล่อยให้เดือดร้อนแบบนี้

จากนั้นทีมข่าวก็โทรศัพท์ไปสอบถามพนักงานสอบสวนที่ สภ.ห้วยราช  ก็บอกข้อมูลเพียงว่า  มีคนมาแจ้งความร้องทุกข์   แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้   ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และหลักฐานอื่นประกอบ  ว่าผู้ที่ถูกอายัดบัญชีมีการกระทำผิดกฎหมายอย่างไร  และบัญชีจะถูกอายัดนานแค่ไหน  ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางธนาคารที่จะส่งสเตทเมนต์มาให้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง